xs
xsm
sm
md
lg

หมอกควันเชียงรายทะลุอันดับหนึ่งของประเทศ ฝนหลวงไม่ได้ผล-ไฟป่าเพื่อนบ้านซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – หมอกควันเมืองพ่อขุนฯทะลุขึ้นอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว หลังเกิดไฟป่าซ้ำซาก แถมได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเผาพื้นที่การเกษตรในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่การทำฝนหลวงยังไม่ได้ผล เพราะความชื้นในอากาศต่ำ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย (9 มี.ค.) แจ้งว่าภายหลังจากช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาสภาพอากาศใน จ.เชียงราย มีท่าทีที่ดีขึ้น โดยค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ไมครอนยังอยู่ในระดับไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรนั้น ปรากฏว่าล่าสุดในรอบ 1-2 วันมานี้พบว่าสภาพอากาศของเชียงรายกลับมาเลวร้ายอีกครั้งสามารถวัดค่าฝุ่นละอองในวันที่ 8 มี.ค.ได้สูงถึง 272.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในวันที่ 9 มี.ค.นี้ พบว่าได้ปรับลดลงเล็กน้อยแต่ก็อยู่ที่ 204.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง

ว่าที่ พ.ต.ธีระ สันติเมธี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) เขต 15 ซึ่งดูแลพื้นที่ทั้ง จ.เชียงราย พะเยา จ.แพร่ และ จ.น่าน กล่าวว่า สภาพอากาศดังกล่าวทำให้เชียงราย มีปริมาณฝุ่นละอองมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ สาเหตุหลักมาจากปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นทั้งภายในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเชียงรายเป็นจังหวัดที่ยื่นเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านถึง 2 ประเทศ

ขณะที่วิถีชีวิตของคนทุกประเทศรวมทั้งในประเทศไทย ก็มีการเผาไร่โดยเฉพาะฟางข้าวเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งแม้ว่าจะมีการรณรงค์ภายในประเทศอย่างหนักเพื่อไม่ให้ประชาชนเผาป่าเผาพื้นที่ทางการเกษตร หรือฉีดพ่นน้ำตามจุดต่างๆ แต่ปัญหาก็ยังคงวนเวียนอยู่

ว่าที่ พ.ต.ธีระ กล่าวอีกว่า ล่าสุดทาง ปภ.ได้ขอให้ทำฝนหลวงในพื้นที่ไปยังหน่วยบินฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ แต่ปรากฎว่าหลังการดำเนินการ ฝนก็ยังไม่ตกลงมา คาดว่าเกิดจากความชื้นในอากาศมีน้อยเกินไป ปัญหาดังกล่าวทำให้ประชาชนเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น หน่วยงานด้านสาธารณสุขจึงเริ่มออกช่วยเหลือประชาชนแล้ว ส่วนการดำเนินการของจังหวัดก็ได้มีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ผ่านทางป้องกันอำเภอต่างๆ ที่อยู่ติดกันทางชายแดน เช่น แม่สาย เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น ฯลฯ เพื่อขอให้ประเทศเพื่อนบ้านช่วยดูแลไม่ให้เกิดไฟป่าด้วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม บางประเทศก็ระบุว่าไม่สามารถที่จะควบคุมได้ทั่วถึง

“ขณะนี้จึงทำได้ด้วยการให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะระดับตำบล หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเผาป่าเผาไร่เพิ่มเติม ทำการฉีดพ่นน้ำอย่างต่อเนื่อง จัดทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าเพิ่ม บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องเป็นฝ่ายเผาเสียเองเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลาม แต่ก็จะใช้วิธีการแบ่งโซน เพื่อไม่ให้มีการเผาพร้อมกันหมดทุกพื้นที่แต่ค่อยๆ ทยอยเผาไปทีละแห่งเพื่อไม่ให้บรรยากาศแย่ไปกว่านี้”


เขาบอกว่า ปัญหายังมีอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษสถานหนักได้ เพราะกว่าเจ้าหน้าที่จะทราบเรื่องก็เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามใหญ่โตแล้ว ขณะเดียวกันพบปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่ เช่น ทางหลวงได้ตัดหญ้าทิ้งไว้ตามข้างทางหลวง และรอให้หญ้าแห้ง ซึ่งใช้เวลาหลายวันเมื่อผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะไปตามเส้นทางทิ้งก้นบุหรี่ลงไปก็ก่อให้เกิดไฟไหม้ จึงได้ประสานเพื่อให้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว สำหรับในระยะยาวคงต้องให้ฝนตกลงมา ซึ่งโดยปกติจะมีพายุฤดูร้อนช่วงปลายเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.ของทุกปี

กำลังโหลดความคิดเห็น