xs
xsm
sm
md
lg

สันนิษฐานต้นเพลิงเผาป่า ม.ราชมงคลตรัง คนงานทิ้งก้นบุหรี่หาไข่มดแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง – กรณีเหตุไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง รองคณบดีสันนิษฐานว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ เกิดจากคนงานก่อสร้างเข้าไปหาของป่าคือ ไข่มดแดง แล้วทิ้งก้นบุหรี่ กับการจุดไฟเผารังต่อเพื่อจะจับตัวต่อ

จากกรณีที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าอย่างรุนแรงภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง บริเวณใกล้กับอาคารคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จนต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมรถดับเพลิง รวมประมาณ 10 คัน เพื่อทำการสกัดเพลิง ทำให้ป่าไม้ก็ถูกเผาจนวอดวายไปแล้วจำนวนกว่า 50 ไร่ เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 นั้น

นายเสรี พาณิชย์กุล นายอำเภอสิเกา กล่าวว่า ถือเป็นเหตุไฟไหม้ที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากไม่เคยเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว เนื่องจากในปี 2552 นี้ ฝนได้ทิ้งช่วงมายาวนานแล้ว ทำให้สภาพพื้นที่โดยทั่วไปแห้งแล้งอย่างมาก จึงเกิดไฟไหม้ป่าไม้ได้ง่าย ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้เกิดมาจากอะไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ที่ลักลอบเข้าไปเผาป่าเพื่อหาไข่มดแดง

ทั้งนี้ แม้ว่าช่วงนี้ในหลายพื้นที่ของอำเภอสิเกา จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไฟไหม้ป่า เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ติดกับริมทะเล และมีลักษณะเป็นดินทราย ซึ่งทำให้เกิดความแห้งแล้งอย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังมีป่าไม้ที่เป็นเชื้อเพลิงติดไฟได้ง่ายเป็นจำนวนมาก แต่จากการเตรียมความพร้อมของกำลังคนและอุปกรณ์ ตลอดจนการฝึกซ้อมรับมือเหตุการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ยังมั่นใจว่าอำเภอสิเกาจะสามารถควบคุมไฟป่าในปีนี้ได้

พ.ต.ท.พีระ กัญจนโรจน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สิเกา กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมานั้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้ แต่คงเป็นลักษณะไฟไหม้ป่าทั่วไปในช่วงหน้าแล้ง ที่อาจจะเกิดจากการทิ้งก้นบุหรี่ของคนที่เข้าไปหาของป่า อย่างเช่นไข่มดแดง หรือเกิดมาจากการจุดไฟเผาเพื่อเอาตัวต่อ แต่เชื่อว่าคงไม่ได้เกิดจากการเจตนาที่จะวางเพลิงเผาป่า

นายธเนศ สินประจิม รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า สันนิษฐานว่าคงเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ เกิดจากการที่คนงานก่อสร้างเข้าไปหาของป่าคือ ไข่มดแดง แล้วทิ้งก้นบุหรี่ กับการจุดไฟเผารังต่อเพื่อจะจับตัวต่อ แล้วเพลิงก็ได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งยามรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ ก็อาจจะดูไม่ทัน เพราะขณะนี้อากาศแห้งแล้ง จึงทำให้ง่ายต่อการเกิดไฟไหม้

สำหรับพื้นที่ป่าไม้ภายในมหาวิทยาลัยที่ใช้ประโยชน์อยู่ขณะนี้ มีประมาณ 1,700 ไร่ ส่วนที่เหลือเป็นสวนปาล์มน้ำมัน และสวนป่า รวมประมาณ 500-600 ไร่ ส่วนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงก็อยู่ติดกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลน ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ฝากฝังให้ทางมหาวิทยาลัย ช่วยสอดส่องดูแลด้วยอีกหลายพันไร่

นายธเนศ กล่าวอีกว่า เมื่อหลายปีก่อนเคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าเป็นประจำ แต่มาระยะหลังไม่ค่อยเกิดขึ้น เพราะมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกันระมัดระวัง รวมทั้งมหาวิทยาลัยได้มีการตัดถนนแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน ซึ่งปรากฏว่าสามารถเป็นแนวกันไฟได้โดยปริยาย ส่วนแนวทางการป้องกันไฟไหม้ป่าจากนี้ไป ก็คงจะต้องมีการขึ้นป้ายแจ้งเตือนให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่เข้ามาเที่ยวก็จะได้เห็นอย่างชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น