ชาวตรังร้อง ควันไฟจากกองขยะเทศบาลส่งผลต่อการหายใจ

ตรัง – ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครตรัง ร้องเรียน ต่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ควันไฟป่า ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจและทัศนวิสัยบนท้องถนน หลังตรวจสอบพบว่าที่ดังกล่าวเป็นบ่อทิ้งขยะเก่า ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาแรมปี เทศบาลเร่งแก้ด่วน

เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (4 มี.ค.) ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ควันไฟป่า ที่พัดปกคลุมในพื้นที่ริมถนนสายตรัง-สิเกา ในเขตเทศบาลนครตรัง ใกล้กับสนามกีฬากลางเทศบาลนครตรัง 2 (ทุ่งแจ้ง) หลังจากชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ควันไฟดังกล่าว แจ้งร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบและช่วยเร่งหาทางแก้ไข

ทั้งนี้ เนื่องจากกลิ่นควันไฟได้ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ต้องหาผ้ามาปิดจมูกตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสูดดมควันไฟเข้าไปมากเกินไป รวมทั้งประชาชนที่ใช้รถสัญจรบนถนนเส้นทางดังกล่าว ประสบกับปัญหาทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีเกรงอันตรายจะเกิดขึ้น เนื่องจากในช่วงกลางคืนที่มีกระแสลม ยิ่งทำให้หมอกควันบดบังเส้นทาง จึงต้องขับขี่รถด้วยความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทราบว่า เป็นเหตุการณ์ซ้ำซากที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยที่ไม่มีการหาทางแก้ไขอย่างถาวร

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครตรัง กำลังนำรถบรรทุกน้ำฉีดพรมพื้นที่เกิดเหตุ ไม่ให้มีควันไฟลอยขึ้นมาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ่อทิ้งขยะเก่าของทางเทศบาลนครตรัง ที่มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ และมีอายุการใช้งานมาแล้วกว่า 100 ปี ก่อนที่จะมีการย้ายบ่อขยะแหล่งใหม่ไปอยู่ในพื้นที่ด้านใน ที่มีเนื้อที่กว่า 119 ไร่

ควันไฟดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากเหตุเพลิงไหม้ป่าที่เกิดขึ้นรอบๆ บริเวณบ่อขยะเก่า ที่ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุนั้น ซึ่งอาจมาจากการทิ้งก้นบุหรี่ของคนที่เข้าไปหาของเก่า หรืออาจจะเกิดจากการจุดไฟของชาวบ้านที่เข้าไปหาปลาในบ่อน้ำใกล้เคียง จากนั้นทำให้ไฟลุกลามไปเผาไหม้กองขยะเก่าที่อยู่ชั้นใต้ดิน

หลังจากมีการย้ายบ่อขยะทางเทศบาลนครตรัง ได้มีการนำดินมาถมกลบแล้วชั้นหนึ่ง ดังนั้น ทำการดับเพลิงจึงไม่อาจดับการเผาไหม้ของขยะชั้นใต้ดิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติกให้ดับไปในคราวเดียวกันได้ แต่เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีการประสานของรถแบ็กโฮล้อยาง ของกองสวัสดิการสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครตรัง ให้มาขุดตักขยะชั้นใต้ดินขึ้นมาพรมฉีดพรมน้ำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากล้อรถติดหล่ม และในวันนี้ได้มีการนำรถแบ็กโฮตีนตะขาบ มาดำเนินการใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็สามารถระงับเหตุไปได้แล้วกว่า 70% จนทำให้ควันไฟที่ลอยขึ้นมาเบาบางลง และคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ภายในวันนี้

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นปัญหาซ้ำซากประจำทุกปี ที่ทางเจ้าของพื้นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขอย่างถาวร เพื่อไม่ให้ปีต่อๆ ไปชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในเรื่องดังกล่าวอีก

ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีการทำรายงาส่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้รับทราบในเรื่องดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีความห่วงใยในเรื่องสุขภาพ และผลกระทบที่เป็นผลเสียต่อประชาชน ซึ่งทราบว่าทางเทศบาลนครตรัง มีแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยการ นำพื้นที่ดังกล่าวใช้เป็นพื้นที่ ในการดำเนินโครงการจัดเก็บขยะ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยครบวงจร จึงคาดว่าน่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ให้กับประชาชนที่เป็นผลดีที่สุดต่อไป