ลำปาง – ผู้ว่าฯ ลำปางกำชับทุกหน่วยงานระดมฉีดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น และคุมเข้มการเผาในที่โล่ง พร้อมประสานทำฝนเทียม หวังบรรเทาวิกฤตหมอกควันที่ล่าสุดตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานกว่า 1 เท่าตัว และสูงสุดในประเทศ แถมผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่ม 15-20% ขณะเดียวกันปัดปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
วันนี้ (27 ก.พ.) นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำปาง โดยมีประเด็นประชุมหารือสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปาง ซึ่งวันนี้ตรวจพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 มีค่า 259.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสูงที่สุดในประเทศ
นอกจากนี้ ดัชนีคุณภาพอากาศก็แย่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนด ไม่เกิน 100 โดยตรวจวัดได้ 161 ขณะที่สภาพเมืองถูกปกคลุมทั่วด้วยหมอกควัน ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนแย่จนแทบมองไม่เห็นช่องทางเดินรถในระยะ 50-100 เมตร
ทั้งนี้ ในการประชุมมีการแจ้งว่า จังหวัดได้ประสานขอฝนเทียมเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ปัญหาแล้ว คาดว่าภายใน 2-3 วันจากนี้น่าเห็นผล นอกเหนือจากนั้นได้ออกมาตรการในการควบคุมและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการขอความร่วมมือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งใช้รถน้ำออกฉีดพ่นตามท้องถนน เพื่อบรรเทาปริมาณฝุ่น
ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น ประกาศและขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้เผาหญ้า เศษใบไม้ใบหญ้า โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐให้กำชับผู้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาห้ามมิให้กระทำการดังกล่าว โดยเคร่งครัด และให้ทำเป็นตัวอย่างในการที่จะไม่เผาขยะหรืออื่นๆ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตาม ขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการด้านกฎหมายดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ยืนยันว่าสาเหตุของการเกิดหมอกควันไม่ได้เกิดจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะอย่างที่มีหลายคนพยายามจะเชื่อมโยงปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นในเวลานี้ว่ามาจากกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยถ่านหินของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ส่วนจำนวนผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่ต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2552 พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20%