xs
xsm
sm
md
lg

กรมควบคุมโรคเตือน ปชช.“ลำปาง-ลำพูน-แพร่” เสี่ยงป่วยโรคทางเดินหายใจ-หัวใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมควบคุมโรคเตือนประชาชน 3 จังหวัดภาคเหนือ ตอนบน “ลำปาง-ลำพูน-แพร่” เสี่ยงป่วยโรคทางเดินหายใจ-หัวใจสูง แนะใช้หน้ากากอนามัย หรือผ้าชุบน้ำป้องกันควันไฟ

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเรื่องการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพกรณีหมอกควันไฟป่าภาคเหนือว่า ในช่วงฤดูแล้งมักจะมีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ หมอกควันไฟในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนที่ได้รับผลกระทบสูงกว่าภาคอื่นๆ ปัญหามลพิษทางอากาศนอกจากจะทำให้เกิดทัศนวิสัยไม่ดี ขมุกขมัวมองเห็นไม่ชัด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุจราจรที่สำคัญยังทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

“อันตรายสุขภาพมีตั้งแต่อาการเพียงเล็กน้อย เช่น ทำให้มีอาการแสบตา ตาแดง มีน้ำตาไหล น้ำมูกไหล เจ็บคอ คออักเสบ ไอ ซึ่งฝุ่นละอองที่มีนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือที่เรียกว่า PM10 (พีเอ็มเท็น) จะมีผลต่อกลไกการตกค้างของฝุ่นในส่วนต่างๆ ของระบบหายใจส่วนบน ตั้งแต่จมูก คอหอย หลอดลมคอ หลอดลมคอส่วนนอก และปอด ก่อให้เกิดอันตรายต่อปอด เช่น การอักเสบของถุงลมปอด และบางรายอักเสบมากจนทำให้เกิดการ หายใจลำบากจนถึงขั้นภาวะวิกฤตได้”อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวต่อว่า จากรายงานการตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า10 ไมครอน (PM10) ของกรมควบคุมมลพิษ ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552 พบว่าจังหวัดลำปาง ลำพูน และจังหวัดแพร่ มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงกว่าค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ซึ่งค่ามาตรฐานของละอองฝุ่นขนาดเล็กที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรโดยเฉพาะจังหวัดลำพูน จากการเฝ้าระวังสถานการณของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปี พ.ศ.2250 (ตุลาคม 2549 - มกราคม 2550) มีผู้ป่วยจากมลพิษหมอกควัน 87,077 ราย เฉพาะเดือนมกราคม 2550 มีผู้ป่วย 29,200 ราย ปี พ.ศ. 2551 (ตุลาคม-มกราคม 2551) มีผู้ป่วย 91,986 รายเฉพาะเดือน มกราคม 2551 มีผู้ป่วย 29,190 ราย

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวต่อว่า สำหรับปี พ.ศ.2552 ได้มีการติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยจากมลพิษทางอากาศใน 8 จังหวัดภาค เหนือตอนบน จำนวนโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคผิวหนังการแพ้ และโรคตา ที่เกิดการระคายเคืองมีจำนวนใกล้เคียงกันในแต่ละเดือนเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ หรือมีจำนวนสูงขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก ยกเว้นจังหวัดลำพูนมีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่ผ่านมา ซึ่ง สธ.ได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจในเรื่องนี้ขึ้นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมนภาคเหนือตอนบนรวบรวมรายงานข้อมูลผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวนผู้ป่วยให้ความรู้แก่ประชาชน พัฒนารูปแบบการป้องกันและควบคุมโรค จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจำนวนมาก

“สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่หมอกควัน แนะนำว่าควรไปขอรับหน้ากากอนามัยจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ หรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก เพื่อป้องกันการสูดควันไฟ และถ้ามีอาการเคืองตา แสบตา แสบจมูก มีน้ำมูก น้ำตาไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ คออักเสบ ให้มาพบแพทย์ทันที ซึ่งโดยมากประชาชนเมื่อมีอาการดังกล่าวมักไม่มาพบแพทย์เนื่องจากคิดว่าเป็นหวัดเล็กน้อย”อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น