ลำปาง - อนุกรรมการผังเมืองฯลงมติปรับลดขนาดอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งจาก 300 ตร.ม. เหลือ ไม่เกิน 120 ตร.ม. อุ้มโชวห่วยก่อนตายเรียบ
ตามที่จังหวัดลำปางได้ดำเนินการออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน เพื่อประโยชน์ในการวางและจัดทำผังเมืองรวมเกี่ยวกับอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกฤาฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะทำการสำรวจเพื่อการวางและจัดทำผังเมืองรวมในท้องที่ 72 จังหวัด พ.ศ.2549 ซึ่งประกาศดังกล่าวจะสิ้นผลการใช้บังคับในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 นี้
ล่าสุด จังหวัดลำปางโดย นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ประชุมคณะอนุกรรมการผังเมืองระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตอาคารพาณิชยกรรมค้าปลีกค้าส่ง เพื่อให้มีผลบังคับอีก 3 ปี ทั้งนี้ได้มีการเชิญตัวแทนผู้ค้าปลีก หรือโชวห่วยในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่ได้รับผลกระทบจากการขยายสาขาขนาดเล็กลงไปสู่ชุมชน เข้ามาให้ข้อมูลด้วย
หลังจากรับทราบข้อมูลทุกส่วน คณะอนุกรรมการฯ ได้มีการสรุปผลการพิจารณา คือ ผังเมืองรวมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา คือ การขออนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อประกอบกิจการขายปลีกขายส่งสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลาย ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีขนาดเกินกว่า 1,000 ตร.ม. ต้องอยู่ห่างจากเขตเทศบาลนครลำปาง ไปตามแนวถนนสายหลักไม่น้อยกว่า 15 กิโลเมตร
ส่วนพื้นที่เดิมที่เคยเป็นบริเวณท้องที่ยกเว้นไว้ รวม 35 แห่ง ซึ่งทั้งหมดจะเป็นเขตเทศบาลตำบล สามารถก่อสร้างอาคารได้ไม่เกิน 300 ตร.ม.นั้น คณะอนุกรรมการพิจารณาแล้วเห็นควรให้ปรับลดขนาดอาคารลงเหลือไม่เกิน 120 ตรม หรือประมาณ 3 คูหา โดยให้เปลี่ยนสถานที่ที่มีผลบังคับเป็นเขตเทศบาลทั้งหมดด้วย โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้ขอเสนอข้อเรียกร้องให้ทางส่วนกลางพิจารณาแก้เงื่อนไขของขนาดในพื้นที่ผังเมืองรวมจากเดิม ไม่เกิน 300 ตร.ม. ลงมาเหลือ 120 ตร.ม. เท่ากับของจังหวัดด้วย
สำหรับการปรับลดขนาดห้างขนาดเล็ก หรือ express ที่ห้างใหญ่หลายแห่งกำลังเดินหน้าเปิดสาขาลงสู่ชุมชน จนร้านค้าขนาดเล็กซึ่งเป็นร้านค้าดั้งเดิมของประชาชนหรือโชห่วย ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทำให้คณะอนุกรรมการฯ ต้องพิจารณาปรับลดขนาดการก่อสร้างอาคารเพื่อกิจการดังกล่าวลง เพื่อไม่ให้โชวห่วยได้ผลกระทบมากกว่าที่เป็นอยู่
