กาฬสินธุ์-เกษตรกร จ.กาฬสินธุ์ ปรับตัวหนีปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง รวมกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด นำวัตถุดิบท้องถิ่นผลิตจำหน่ายให้กับเกษตรกรในกลุ่ม ราคาถูกมากกว่า 50% เผยผลดีฟื้นสภาพดิน เพิ่มผลผลิต ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนผลิต ทั้งเกษตรกรยังมีเงินปันผลจากการค้าปุ๋ยอินทรีย์
จากปัญหาต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรที่เพิ่มสูง โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีที่ปรับราคาขึ้นสูงเฉลี่ยกระสอบละ 800-1,000 พันกว่าบาท สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรจำนวนมาก ล่าสุดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่บ้านดงเมือง หมู่ 10 ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้เกิดการรวมตัวกันของเกษตร ร่วมตั้งโรงผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพบ้านดงเมืองขึ้น ร่วมกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขายผลิตใช้กันเองภายในกลุ่ม
นายประภาส ภูวงกต ประธานกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ กล่าวว่า ได้นำสมาชิกเร่งผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพอัดเม็ด ให้เพียงพอต่อความต้องการของสมาชิก เพื่อนำไปใช้กับแปลงข้าวนาปรัง หลังจากที่ราคาปุ๋ยเคมีตามท้องตลาด ปรับราคาขึ้นถึงกระสอบละ 1 พันกว่าบาท โดยวัสดุที่ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ จะมาจากวัสดุที่หาได้ภายในท้องถิ่น อาทิ ปุ๋ยคอก น้ำหมักจากหอย และพืชสด แกลบดำ เป็นส่วนผสมสำคัญ
ปัจจุบันปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดมีความต้องการสูงมาก จึงต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้วันละกว่า 2 ตัน บรรจุถุงละ 50 กก. ราคาจำหน่ายถุงละ 420 บาท สามารถลดต้นทุนการผลิตลงเมื่อเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมีกว่า 50% ซึ่งการจำหน่ายจะเน้นขายให้กับชาวบ้าน ประโยชน์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านจะได้ใช้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี และได้รับเงินปันผลจากการขายปุ๋ยของกลุ่มด้วย
นางราตรี ศรีสมัย เกษตรตำบลลำพาน กล่าวว่า บ้านดงเมืองถือว่าเป็นหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงของอ.เมืองกาฬสินธุ์ ในแง่ของการดำเนินงานกลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพบ้านดงเมือง นอกจากจะช่วยลดต้นทุนผลิตแล้วยังเพิ่มสารอาหารในดินและช่วยปรับปรุงโครงสร้างดินที่เสื่อมโทรมจากการใช้ปุ๋ยเคมี ในระยะยาวจะได้ผลผลิตเพิ่มและปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้าง จึงเป็นโครงการที่น่าสนับสนุนให้ต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ มีความต้องการมากขึ้น อาจประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ บางช่วงจึงผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ เกษตรทั่วไปยังคงได้รับความเดือดร้อนจากปุ๋ยเคมีราคาแพง ทั้งยังถูกโรงสีและพ่อค้าคนกลางกดราคา ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนตลอดมา
