xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรกาฬสินธุ์เจ๋งใช้น้ำหมักชีวภาพเลี้ยงหมูสู้ภัยแล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพันธ์ นาชัยนาค อายุ 70 ปี ราษฎรบ้านโนนศิลาเลิง หมู่ 1 ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์ - พบเกษตรกรชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ นำน้ำหมักชีวภาพมาใช้ในการเลี้ยงหมู นับเป็นความสำเร็จของการเลี้ยงแบบใหม่ ที่เร่งการเจริญเติบโต ประหยัดเวลา ลดรายจ่าย สร้างรายได้ในฤดูแล้ง สอดคล้องพระราชดำรัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายพันธ์ นาชัยนาค อายุ 70 ปี ราษฎรบ้านโนนศิลาเลิง หมู่ 1 ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า อาชีพหลักของตนคือทำนา แบ่งพื้นที่จำนวน 2 ไร่สำหรับขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงวัว หมู เป็ด ไก่ และปลูกพืชผักสวนครัว เป็นอาชีพเสริม ที่ผ่านมาประสบปัญหาปุ๋ยและอาหารเสริมราคาแพง จึงคิดหาวิธีที่จะประหยัดรายจ่าย เริ่มจากการทำปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพใช้เอง โดยใช้ปุ๋ยคอกและเศษพืชผักผลไม้ นำมาหมักกับน้ำเชื้อจุลินทรีย์ชีวภาพ(EM) เมื่อใช้กับต้นข้าวและพืชผักได้ผล จึงทดลองใช้กับสัตว์เลี้ยง โดยผสมกับอาหารและให้กินแทนน้ำก็ได้ผลดีเช่นกัน คือนอกจากจะเร่งการเจริญเติบโตแล้วยังได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้าง ที่นอกจากนี้คุณสมบัติของน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ยังช่วยขจัดกลิ่น ไม่เกิดปัญหามลพิษอีกด้วย

นายพันธ์ กล่าวอีกว่า การใช้น้ำหมักชีวภาพดังกล่าว ได้ประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาใช้ในการเลี้ยงหมู ที่ปกติเกษตรกรทั่วไปจะประสบปัญหาต้นทุนการผลิตด้านอาหารเสริมที่เพิ่มสูง ถุงละกว่า 800 บาท แต่การเลี้ยงหมูโดยใช้น้ำหมักชีวภาพ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยไม่ต้องซื้ออาหารเสริม เพียงแต่ใช้น้ำหมักชีวภาพผสมรำให้หมูกินวันละ 2 ครั้ง ก็สามารถเร่งการเจริญเติบโต มีภูมิต้านทานโรค สุขภาพดี ได้น้ำหนัก ได้เนื้อคุณภาพดี

ที่สำคัญอายุเพียง 4 เดือนก็จำหน่ายได้ การใช้น้ำหมักชีวภาพเลี้ยงหมู จึงเป็นการประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและร่นระยะเวลาในการเลี้ยงได้เป็นอย่างดี ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ตนได้รับรางวัลคลินิคด้านปศุสัตว์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ และเป็นศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีเกษตรกรทั่วไปมาใจเยี่ยมชมวันละหลายสิบคน


กำลังโหลดความคิดเห็น