จีนส่ง ตร.สอบเหตุยิงถล่มเรือสินค้ากลางน้ำโขง/กองเรือพร้อมใจหยุดวิ่ง-จี้พม่าดูแล

เชียงราย – สป.จีน ส่งทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจลุยตรวจสอบเหตุกองกำลังเถื่อนยิงถล่มเรือสินค้าจีนกลางน้ำโขงจนลูกเรือดับ 1 รายแล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการเดินเรือนับร้อยลำพร้อมใจหยุดเดินเรือ จี้พม่าส่งกองกำลังคุ้มกันจุดอันตรายตลอดแนวแม่น้ำโขง กระทบการค้าไทย-จีนทั้งระบบ ล่าสุดมีสินค้าตกค้างเพียบ บางส่วนต้องหันไปพึ่งการขนส่งผ่านพม่า ยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม 50-60%

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย วันนี้ (20 ก.พ.) แจ้งว่า หลังจากเรือสินค้าจีนหยุดเดินเรือในแม่น้ำโขง หลังเกิดปัญหากองกำลังไม่ทราบฝ่ายกราดยิงเรือสินค้าจงหยี่ 1 จนเป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 คน บริเวณใกล้เกาะกลางแม่น้ำโขง ใกล้ท่าเรือเมืองพง ประเทศพม่า ตรงกันข้ามเมืองมอม สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปทางทิศเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เมื่อ 18 ก.พ.52 จนทำให้กองเรือสินค้าที่ให้บริการในสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจไทย จีน ลาว และพม่า เกรงว่าจะไม่เกิดความปลอดภัยนั้น

สถานการณ์ล่าสุด พบว่า ยังคงมีการปะทะกันอย่างประปราย ระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย บริเวณเหนือสามเหลี่ยมทองคำ แต่ไม่พบความเสียหายเพิ่มเติม

ขณะที่กองเรือบางส่วนของจีน ยังจอดอยู่ที่ท่าเรือเมืองพงเพื่อเจรจาให้ทางทหารพม่าจัดกองเรือลาดตระเวนคุ้มกันเรือของตน อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา เนื่องจากทางทหารพม่าต้องแจ้งให้รัฐบาลกลางได้รับทราบก่อน

ขณะที่ทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ ล่องเรือลงมาเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว ที่เมืองพงแล้ว

ด้าน นายกิจชัย แต้เต็มวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยรัตน์มั่นคง จำกัด ซึ่งประกอบกิจการนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทผลไม้ ที่ อ.เชียงแสน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้เรือสินค้าในแม่น้ำโขง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรือสัญชาติจีนกว่า 70-80 ลำ ให้หยุดเดินเรือทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย จนกว่าจะหามาตรการป้องกันปัญหาได้

ทำให้บรรยากาศการค้าชายแดนช่วงนี้อยู่ในภาวะที่ซบเซาลงชั่วคราว สินค้าส่งไปมาไม่ได้ตามปกติและส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามักจะมีการนำเข้าสินค้าพืชผักและผลไม้จากประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ และช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ เป็นช่วงที่ผลไม้ไทยหลากหลายชนิดกำลังจะถูกส่งออกไป เช่น ทุเรียน มังคุด ฯลฯ แต่ปรากฏว่า กลับต้องการประสบกับปัญหาเรือจีนไม่สามารถให้บริการได้เสียก่อนดังกล่าว

นายกิจชัย กล่าวว่า ขณะที่การนำเข้าก็ประสบปัญหาโดยบางรายได้ขนสินค้าลงเรือในแม่น้ำโขงที่ท่าเรือจีนตอนใต้เรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่า เกิดปัญหาเรือหยุดเดินพอดี ทำให้สินค้าจำนวนมากต้องค้างอยู่บนเรือไม่สามารถขนส่งลงมาได้ ดังนั้น จึงต้องรอมาตรการการคุ้มกันเรือสินค้าระหว่างจีนและพม่า หรือระหว่าง 4 ชาติลุ่มแม่น้ำโขงก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาระหว่างประเทศที่เป็นไปตามข้อตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำโขงตอนบน 4 ชาติ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีการแก้ไขปัญหานี้ ผู้ประกอบการก็ได้หันหาการส่งออกและนำเข้าสินค้าตามช่องทางอื่นแทนแล้ว โดยเฉพาะขนส่งตามถนนอาร์สามบี ระหว่าง อ.แม่สาย-พม่า-จีนตอนใต้ ส่วนถนนอาร์สามเอ ระหว่าง อ.เชียงของ-ส.ป.ป.ลาว-จีนตอนใต้ ยังเป็นเส้นทางใหม่ที่อยู่ระหว่างศึกษาเรื่องต้นทุนกันอยู่

แหล่งข่าวผู้ประกอบการค้าชายแดนรายหนึ่งแจ้งว่า ในปัจจุบันค่าขนส่งสินค้าทางเรือในแม่น้ำโขงคิดราคาตันละประมาณ 300 หยวน หรือ 1,500 บาท เรือแต่ละลำสามารถบรรทุกได้ในฤดูแล้งประมาณ 100-200 ตัน แต่หากว่าขนส่งผ่านเส้นทางอาร์สามบีในประเทศพม่าก็จะเสียค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 50-60% เพราะต้องจ่ายค่าผ่านทางหลายแห่ง อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการบางส่วนยอมสูญเสีย เพราะเมื่อเทียบกับมูลค่าและกำไรของสินค้าถือว่าคุ้มทุน ซึ่งการขนส่งผ่านเส้นทางนี้สามารถส่งไปถึงด่านต้าลั้ว ชายแดนจีน-พม่า และเข้าไปในประเทศจีนได้

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการค้าชายแดนทางเรือในแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 โดยในปี 2550 มีการนำเข้าสินค้า 1,007.49 ล้านบาท และส่งออก 5,658.12 ล้านบาท แต่ในปี 2551 ที่ผ่านมา การนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,232.53 ล้านบาท และส่งออกเพิ่มเป็น 6,431.22 ล้านบาท โดยสินค้าที่ส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นยางแผ่นรมควัน น้ำมันปาล์ม เครื่องดื่มชูกำลัง ลำไยอบแห้ง ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นผักสด ทับทิมสด แอปเปิ้ลสด กระเทียม ฯลฯ และเฉพาะเดือน ธ.ค.2551 มีการส่งออกไปแล้วกว่า 577.06 ล้านบาท และนำเข้า 8,225.183 ล้านบาท