เชียงราย – จีนประสานทหารพม่าจัดชุดคุ้มกันเรือในแม่น้ำโขง หลังกองกำลังเถลื่อนยิงถล่มเรือสินค้ากลางลำน้ำ จนเป็นเหตุให้ลูกเรือจีนเสียชีวิต 1 ราย ด้าน JCCCN อาจเลื่อนประชุมเร็วขึ้น เพื่อถกแนวทางแก้ปัญหากรณีเกิดเหตุฉุกเฉนในลำน้ำโขง
รายงานจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีเรือสินค้าในแม่น้ำโขงสัญชาติจีนที่เดินทางมาจากเมืองเชียงรุ้งหรือจิ่งหง เขตปกครองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ เพื่อจะเดินทางไปเทียบท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อทำการขนส่งสินค้าถูกกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายกระหน่ำยิง จนเป็นเหตุให้ลูกเรือชื่อจิวหยี่ 1 จนลูกเรือ ชื่อ นายเป่ยจิน อายุ 17 ปี ลูกเรือชาวจีนเสียชีวิต 1 คน โดยถูกยิงเข้าที่กลางหลังเสียชีวิต ขณะจะนำส่งโรงพยาบาลเมืองพง ประเทศพม่า
เหตุเกิดบริเวณริมฝั่งเมืองพง ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ หมู่บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 15 กิโลเมตรนั้น เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุเรือจีนในขบวนดังกล่าวซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4-5 ลำ ยังคงจอดอยู่ที่ท่าเรือเมืองพงโดยมีทหารพม่าให้การคุ้มครองหลังจากได้ช่วยขับไล่กองกำลังดังกล่าวออกไปแล้ว
นายอภิสิทธิ์ คำภิโล หัวหน้าขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวเรือสินค้าในแม่น้ำโขงทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 100 ลำ และเป็นสัญชาติจีนส่วนใหญ่ได้หยุดทำการขนส่งชั่วคราว ส่งผลทำให้ไม่มีเรือแล่นไปมาในแม่น้ำโขงและเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือเชียงแสน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย และกลัวว่า จะถูกกองกำลังติดอาวุธยิงกระหน่ำอีก
จากนั้นทางคนเรือจีนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของทางการจีน ที่เขตปกครองสิบสองปันนาแล้ว ต่อมาทางการจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากับทหารพม่าที่ประจำอยู่ที่เมืองพง เพื่อขอให้ทางทหารพม่าได้จัดชุดกองกำลังออกลาดตระเวณ รวมทั้งคุ้มกันกองเรือสินค้าของจีนเมื่อต้องแล่นผ่านจุดต่างๆ ที่มีความอันตรายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดยังไม่ได้ข้อยุติโดยอยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่
นายอภสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ตนได้ทำรายงานถึงคณะกรรมการประสานการดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (JCCCN:The Joint on Coordination of Commercail Navigation on the Lancang-Mekong River among China,Laos,Myanmar and Thailand) เพราะดูแลเกี่ยวกับข้อตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำโขงตอนบน 4 ชาติคือไทย จีน ลาวและพม่า ซึ่งมีข้อตกลงกันเมื่อปี 2544 ว่าเมืองท่าต่างๆ ในแม่น้ำโขงทั้ง 14 แห่งจะต้องช่วยเหลือกันกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ขึ้น
ทาง JCCCN และกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ของไทยได้รับทราบแล้ว อาจจะเลื่อนกำหนดการประชุมจากเดิมจะมีการประชุมราวเดือนพฤษภาคม หรือกันยายน 2552 แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ตนคาดว่า อาจจะต้องจัดการประชุมเข้ามาใกล้อีก เพราะหากเกิดเหตุกรณีนี้ขึ้นซ้ำซากการค้าชายแดนในแม่น้ำโขง 4 ชาติ ก็ต้องหยุดชะงักไปทุกชาติจึงช่วยกันแก้ไขปัญหา
ด้าน นายวินัย ฉินทองประเสริฐ นายด่านศุลกากรเชียงแสน กล่าวว่า การค้าในแม่น้ำโขงผ่าน อ.เชียงแสน มีมูลค่ารวมปีละประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยแยกเป็นการส่งออกประมาณ 5,000 ล้านบาท และนำเข้าประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับเดิน ม.ค.ที่ผ่านมา แม้จะเป็นฤดูแล้งแต่ก็มีการส่งออกไปกว่า 300 ล้านบาท และนำเข้า 50-60 ล้านบาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นยางแผ่นรมควันและสินค้านำเข้าจะเป็นพืชผักผลไม้ต่างๆ
สำหรับกรณีที่เรือจีนไม่แล่นเข้าเทียบท่าเลย เพราะเกรงจะไม่มีความปลอดภัยจากการถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงนั้น คาดว่า จะมีผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น ท้ายที่สุดก็ต้องมีการเจราจาเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะจีนเป็นมหาอำนาจในทางเศรษฐกิจคงไม่ยอมสูญเสียตรงจุดนี้
นอกจากนี้ หากว่าสถานการณ์กลับมาปกติ ก็จะมีเรือเข้าเทียบท่าในฤดูน้ำหลาก 8-10 ลำต่อวันลำละประมาณ 200-300 ตัน หรือบางครั้งก็แออัดกันในช่วงน้ำหลาก แต่ในฤดูแล้งวันละประมาณ 2-3 ลำ