ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ม็อบเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดแม่แจ่ม ยอมสลายตัวออกจากศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่แล้ว หลังพอใจมาตรการช่วยเหลือเพิ่มโควตารับจำนำและจ่ายเงินที่ค้างอยู่ โดยก่อนหน้านี้หวุดหวิดปะทะกับกลุ่ม “เสื้อแดงเชียงใหม่” ที่มายื่นหนังสือผู้ว่าฯ แล้วพยายามสมอ้างดึงเป็นพวกแต่เกษตรกรไม่เอาด้วย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 500 คน ที่ปักหลักชุมนุมและนอนค้างแรมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2552 และทำการปิดประตูเข้าออกศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 ก.พ.) ได้ยอมสลายตัวและเดินทางกลับบ้านแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ หลังจากพึงพอใจมาตรการช่วยเหลือขององค์การคลังสินค้า (อคส.) กระทรวงพาณิชย์ ในการเพิ่มโควตาการรับจำนำ และจ่ายเงินให้เกษตรกรในรายที่ได้รับใบประทวนไปแล้วก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือของ อคส.นั้น ประกอบด้วย การเพิ่มโควตารับจำนำข้าวโพดของเกษตรกรเป็น 13,000 ตัน โดยให้เริ่มรับจำนำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะที่เกษตรกรที่ได้รับใบประทวนจากการรับจำนำไปแล้วรายละไม่เกิน 100,000 บาท สามารถไปรับเงินได้แล้วที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ส่วนเกษตรกรที่นำข้าวโพดไปฝากไว้ที่จุดรับจำนำภายในวันที่ 30 ธ.ค.2551 วงเงินไม่เกินรายละ 100,000 บาท หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นข้าวโพดของเกษตรกรจริง สามารถเข้าโครงการรับจำนำได้ในโควตา 13,000 ตัน
รายงานข่าวแจ้งว่าในช่วงสายวันเดียวกันนี้ ระหว่างที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม กำลังรอรับฟังคำตอบมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่นั้น กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่ม พร้อมพวกที่สวมเสื้อสีแดงประมาณ 50 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการจัดขบวนเกย์พาเหรด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยพยายามสมอ้างราวกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่ชุมนุมอยู่ก่อนแล้วเป็นพวกเดียวกัน
ทางด้านแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จึงได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอย่าเข้าไปร่วมกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เพราะเดินทางมาด้วยวัตถุประสงค์คนละอย่างกัน เนื่องจากเกษตรกรมาชุมนุมเพราะปัญหาปากท้อง ส่วนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มาด้วยเป้าหมายทางการเมือง ทำให้ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ไม่พอใจจนมีปากเสียงกันและหวุดหวิดจะมีการปะทะกันด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลการชุมนุมอยู่ สามารถควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้