ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดแม่แจ่ม บุกล้อมศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องรัฐบาล “อภิสิทธิ์” เร่งช่วยเหลือโครงการรับจำนำผลผลิตที่ยังค้างอยู่กว่า 8,000 ตัน มูลค่าร่วม 60 ล้านบาท ยื่นคำขาดเอาเรื่องเข้า ครม.พรุ่งนี้ (17 ก.พ.) หากไม่ตอบสนองพร้อมปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ
วันนี้ (16 ก.พ.) กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 300 คน นำโดย นายไกรสร เครือแก้ว เป็นแกนนำ ได้รวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือผ่านจังหวัดเชียงใหม่เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ที่การช่วยเหลือตามโครงการรับจำนำคั่งค้างมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา มีจำนวนข้าวโพดที่ได้รับการออกใบประทวน และฝากไว้กับผู้ประกอบการที่รับจำนำรวมทั้งสิ้น 8,141 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งข้าวโพดดังกล่าวเพิ่งมีส่วนที่ได้รับใบประทวนเพียงประมาณ 1,000 ตันเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื้อหาข้อเรียกร้องตามหนังสือ ที่กลุ่มเกษตรกรยื่นผ่านทางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนายชุมพร แสงมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับ ได้เรียกร้องธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับใบประทวนแล้ว ขณะเดียวกัน ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ดำเนินการออกใบประทวนให้แก่เกษตรกรที่ฝากข้าวโพดไว้ตามจุดรับจำนำ
พร้อมทั้งให้เพิ่มวงเงินการจำนำข้าวโพดให้เกษตรกรตามความเป็นจริง โดยไม่จำกัดวงเงินอยู่แค่รายละ 100,000 บาท และให้ ธ.ก.ส.และสหกรณ์ ดำเนินการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรหรือปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งหากข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนองจะทำการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้ผลเป็นที่พอใจ
นายไกรสร กล่าวว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการที่ยังไม่ได้รับเงิน ทั้งในกรณีที่เกษตรกรได้รับใบประทวนตามโครงการรับจำนำแล้วและที่นำข้าวโพดไปฝากไว้รอการรับจำนำ ซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมา ทางตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอำเภอแม่แจ่ม ได้เข้ายื่นหนังสือให้กับมือนายกรัฐมนตรีมาแล้ว และมีการรับปากว่า จะให้การช่วยเหลือโดยนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น
ทำให้ต้องมารวมตัวชุมนุมกันในครั้งนี้ โดยยื่นคำขาดให้มีการนำปัญหานี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกร หากไม่มีการดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะปักหลักชุมนุมอยู่ ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ไปจนกว่าข้อเรียกร้องจะเป็นผล