ผู้ว่าฯกาญจน์เต้นสั่งสอบหาข้อมูลขึ้นทะเบียนเลื่อยยนต์เถื่อน

กาญจนบุรี – ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เต้นสั่งสอบหาข้อมูลเรื่องขึ้นทะเบียนเลื่อยยนต์เถื่อน ผวาต้นไม้ในเมืองกาญจน์หมดป่า ชี้เลื่อยยนต์ตัวเดียวตัดได้เป็นหมื่นเป็นแสนต้น ทส.กาญจน์ แจงทำทั่วประเทศและมีขั้นตอนรายละเอียดเยอะ

ความคืบหน้ากรณีเอ็นจีโอร้อง ทส.ทำพิลึกจดทะบียนเลื่อยยนต์เถื่อนที่กาญจนบุรี ดังนั้น วันที่ 9 ก.พ.2552 เวลา 12.00 น.นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้อ่านข่าวก็รู้สึกกังวลเช่นกัน เพราะหากมีการให้ครอบครองเลื่อยยนต์จำนวนมาก แต่ผู้ครอบครองนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็เป็นอันตรายกับป่าไม้เช่นกัน แต่จากที่สอบถามกำลังให้ตรวจสอบว่าการดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมาย หรือวิธีปฏิบัติของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่รับผิดชอบเรื่องนี้หรือไม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดหากมเป็นการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ต้องเอาใจใส่กำกับดูแลให้ผู้ที่ครอบครองปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นเลื่อย1ตัวสามารถตัดต้นไม้ได้เป็นหลายหมื่นหลายแสนต้นได้เช่นกัน ก็จะตรวจสอบในเรื่องนี้เพื่อความชัดเจนในการดำเนินการต่อไป

ด้าน นายทินกร วุฒิวิจารณ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มีการประกาศให้นำเลื่อยโซ่ยนต์มาขึ้นทะเบียนจริง ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามพรบ.เลื่อยโซ่ยนต์ที่ขณะนี้กำลังดำเนินการกันทั่วประเทศ ไม่ใช่แต่ในพื้นที่กาญจนบุรีเท่านั้นในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีผู้มายื่นคำร้องประมาณ 1,000 กว่าราย และขณะนี้ตรวจสอบตามขั้นตอนของกระทรวงเสร็จสิ้นออกใบอนุญาตไปแล้วแค่ 100 กว่ารายเท่านั้น ในส่วนของผู้ที่ยื่นคำร้องมีทั้งส่วนราชการอย่างเทศบาล หรือ อบต.ต่างๆ รวมถึงหน่วย อปพร.หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หรือส่วนของสวนป่าต่างๆที่ต้องใช้เลื่อยโซ่ยนต์รวมถึงชาวบ้านที่ต้องใช้ก็มีมายื่นคำร้องเช่นเดียวกันตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่กฎหมายเปิดให้ดำเนินการได้

“แต่กระบวนการในการตรวจสอบพิจารณาว่าเลื่อยโซ่ตัวใดสามารถออกทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีขั้นตอบปฏิบัติหลายขั้นตอนที่ต้องประสานการทำงานตรวจสอบประวัติจากตำรวจและมีการตรวจเช็คเครื่องกำลังแรงม้าต่างๆ จากคณะอาจารย์จากวิทยาลัยเทคนิคร่วมในการพิจารณาด้วย ไม่ใช่ทาง ทส.กาญจนบุรี ดำเนินการแค่หน่วยเดียวเท่านั้นต้องทำตามกระบวนการวิธีปฏิบัติตามกฎหมายอย่างครบถ้วนจึงได้รับการพิจารณา” นายทินกร กล่าว

มีรายงานข่าวว่า การขึ้นทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ในครั้งนี้มีกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นนายหน้าในการรับจ้างดำเนินการแทนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นติดต่อให้ประชาชนที่ต้องการได้ใบอนุญาตโดยสะดวก และมีการเรียกค่าดำเนินการเลื่อยตัวละ 2,500-5,000 บาท