ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – แบงก์ชาติเผยปี 51 เศรษฐกิจภาคเหนือชะลอตัว เหตุวิกฤตเศรษฐกิจโลก ผนวกน้ำมันแพงและความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ยังดีมีการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรเป็นปัจจัยช่วยประคับประคอง
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ เปิดเผยสรุปภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือปี 2551 ว่า ในด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้นตามผลผลิตและราคาพืชสำคัญ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรก แต่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก ส่วนภาคบริการโดยรวมหดตัวจากปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งปีแรก และความไม่แน่นอนในช่วงครึ่งปีหลัง
ด้านอุปสงค์นั้น การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนทรงตัวตามการระมัดระวังการใช้จ่ายของประชาชน การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องจากการที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น แต่การส่งออกและนำเข้ายังคงขยายตัว ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณผ่านคลังจังหวัดในภาคเหนือลดลง โดยเฉพาะงบลงทุนเนื่องจากต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกและความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเป็นสำคัญ ส่วนเงินฝากและสินเชื่อของสาขาธนาคารพาณิชย์ยังขยายตัวจากปีก่อน
สำหรับคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจภาคเหนือในปี 2552 นั้น ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานภาคเหนือไม่มีการประมาณการในส่วนนี้ไว้ แต่คาดว่าภาพรวมน่าจะเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศ อย่างไรก็ตามตั้งข้อสังเกตว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจประเทศจะชะลอตัวลงประมาณ 10% แต่ภาคเหนือชะลอตัวลงประมาณ 5% เท่านั้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกอื่นๆ เป็นตัวช่วยประคับประคองเศรษฐกิจของภาคเหนือ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและภาคการเกษตร ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จะยังคงเป็นเช่นเดิม