ศูนย์ข่าวศรีราชา – ครัวการบินไทย เผย เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ รองรับการเจริญเติบโตและลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เชื่อ ในปีนี้อาจมีการทุ่มงบประมาณหลายล้านดึงบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ ดูแลเรื่องการจัดเก็บอาหารลงระบบการจัดการ หวังมีสิทธิภาพสูงสูดในการให้บริการผู้โดยสารทุกสายการบิน
ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งระดับสูง บริษัท ครัวการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในการเยี่ยมชมการทำงานร่วมกับตัวแทนโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ขณะนี้ครัวการบินไทยได้มีแนวคิดที่จะอนุมัติงบประมาณจำนวนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการควบคุมการผลิตอาหาร ด้วยระบบซอร์ฟแวร์ให้ทันต่อโลกในยุคปัจจุบัน
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเคยมีการเสนอผ่านไปยังผู้บริหารระดับสูงของครัวการบินไทยในปีงบประมาณที่ผ่านมาแล้ว แต่ทว่าประเทศไทยเกิดปัญหาต่างๆ รุมเร้าเข้ามา จึงทำให้ต้องชะลอการพิจารณาในปีงบประมาณ 2552 โดยเห็นว่า ระบบซอฟต์แวร์ที่จะมาควบคุมการทำงานของครัวการบินไทยนั้น ควรครอบคลุมทั้งเรื่องการแก้ปัญหาการควบคุมอัตราการผลิต เรื่องของการจัดเก็บและสต๊อกอาหาร เรื่องของการค้นหาและติดตามอาหารที่ผลิตแล้ว โดยเน้นความชัดเจนและง่ายต่อการทำงานของพนักงาน
ในแต่ละวันครัวการบินไทย ผลิตอาหารชุดเฉลี่ยวันละประมาณ 60,000 ชุดต่อวัน เพื่อป้อนให้กับสายการบินต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อคอยบริการลูกค้าที่สัญจรโดยอาศัยการเดินทางของท่าอากาศยาน แต่ด้วยปริมาณพนักงานที่เข้างานผลิตอาหารวันละ 3 กะๆ ละประมาณ 2,000-3,000 คน ทำให้ระบบในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวมีความสับสน และคลาดเคลื่อนอย่างมาก จนทำให้มีระบบของการจัดการไม่ดีพอ จึงเกิดยอดการผลิตเพิ่มและมีผลิตภัณฑ์ฟุ่มเฟือยกว่า 20% ในแต่ละวัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวต่อว่า คณะทำงานด้านเทคโนโลยีโดยฝ่ายวางแผนการผลิต ซึ่งเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์เรื่องการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ภายใน ได้มีแนวคิดการใช้ระบบซอฟต์แวร์เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าว ก่อนจะมีการพูดคุยกับผู้บริหารในส่วนแรกแล้ว และคาดว่า ในปีนี้จะมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาเรื่องดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการจัดหาบริษัทผลิตและดูแลซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวอยู่ และล่าสุด บริษัท จาสุมีเดีย จำกัด ซึ่งผลิตซอฟต์แวร์ระบบการจัดการอาหารแช่แข็ง ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพียงหนึ่งเดียวในโลก ได้มีการประสานเข้ามาเพื่อช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม จะได้สานต่อในเรื่องของการขอพิจารณาอนุมัติเรื่องดังกล่าวต่อผู้บริหารระดับสูงในระยะเวลาอันใกล้นี้ และคาดว่า จะสามารถดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมได้โดยเร็วที่สุด เพราะบริษัท จาสุมีเดีย จำกัด อยู่ในความดูแลของโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งทาง สวทช.เองก็ได้รับนโยบายในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมของไทยอยู่แล้ว จึงมีความเชื่อมั่น และเชื่อแน่ว่า การจัดการพัฒนาระบบดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรองรับความเจริญเติบโตในประเทศ และสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ฟุ่มเฟือยได้อีกทางหนึ่งอย่างแน่นอน
