อินเทลเปิดตัวโครงการซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมครั้งแรกในไทย พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยเข้าร่วมเครือข่ายซอฟต์แวร์ระดับโลกที่จะให้ข้อมูลความรู้และทูลส์ต่างๆ ของเครือข่ายเพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพธุรกิจตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด จนถึงการจัดจำหน่าย
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551 บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความพร้อมเปิดตัวโครงการ อินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม (Intel® Software Partner Program) ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์โดยเฉพาะโครงการนี้ ซึ่งเปิดกว้างโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์อิสระที่พัฒนาแอพพลิเคชันเชิงพาณิชย์บนแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอินเทล จะมีแหล่งข้อมูลสำหรับการวางแผน ด้านเทคนิค การตลาด และการจัดจำหน่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการนำไปใช้พัฒนาธุรกิจของตน เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รวมทั้งเป็นผู้นำในเรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์ การตลาด และเป็นต่อในการแข่งขันอีกด้วย
โครงการอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม จะช่วยให้สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสำหรับเซิร์ฟเวอร์และเครื่องลูกข่ายชนิดต่างๆ ของอินเทลได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มร.สก็อต แฮริสัน ผู้อำนวยการซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมระดับโลก กลุ่มอินเทล ซอฟต์แวร์ แอนด์ โซลูชัน กรุ๊ป กล่าวว่า "สังคมของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต้องทำงานร่วมกันมากขึ้นเพื่อให้สิ่งที่ดีและมีคุณค่ากับลูกค้า โครงการอินเทลซอฟต์แวร์ พาร์ทเนอร์โปรแกรมคือความก้าวหน้าครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของอินเทลในการลงทุนและส่งเสริมนวัตกรรมต่อสังคมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศไทย”
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์พาร์ค กล่าวว่า “ปัจจุบันนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยมีการพัฒนาไปจากเดิมอย่างมาก แต่หลายครั้งติดปัญหาเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่จากผู้ผลิตระดับโลก ซึ่งมักจะส่งข้อมูลให้กับบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ก่อน นอกจากนั้นแล้วการทำการตลาดซอฟต์แวร์ในระดับโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การใช้โครงสร้างการตลาดแบบเดิมๆ เริ่มมีประสิทธิภาพน้อยลง โดยกลยุทธ์การตลาดแบบ Social Network กำลังเป็นที่จับตา”
“ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์คเองมีความพยายามที่จะส่งเสริมการพัฒนาของบริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศไทยมาโดยตลอด และโครงการนี้จะทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาของซอฟต์แวร์ไทยมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และไม่ติดเงื่อนไขใดๆ ทั้งในการเข้าถึงทูลส์และข้อมูลต่างๆที่มีประโยชน์นอกจากนั้นการสร้างชุมชนให้เกิดขึ้น นอกจากจะทำให้สร้างแพคเกจใหม่จากการนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมารวมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังนำไปสู่การรวมตัวกันเพื่อทำการตลาดในส่วนต่างๆ ของโลกได้ง่ายขึ้น”
มร.นาเรนดรา บันดารี ผู้อำนวยการ ซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมระดับเอเชีย แปซิฟิก กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการอินเทลซอฟต์แวร์ พาร์ทเนอร์โปรแกรม จะช่วยเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในระดับท้องถิ่น และช่วยให้มีการนำโซลูชันด้านไอทีเข้าไปใช้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของพวกเขาอีกด้วย”
สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายรวมทั้งเครื่องที่ช่วยในการวางแผนเกี่ยวกับแอพพลิเคชันของตนเอง อาทิ การฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ และรับทราบตารางเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีของอินเทล พร้อมด้วยทูลส์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่จะช่วยให้เสริมศักยภาพของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นอกจากนั้นยังช่วยให้สมาชิกทำการตลาดและจำหน่ายโซลูชันได้เร็วขึ้นอีกด้วย อาทิ การโฆษณา มีแผนการทำตลาดร่วมกัน และสามารถนำ อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ โซลูชัน แคตาล็อก (Intel® Developer Solution catalog) มาใช้เป็นช่องทางในการสาธิตแอพพลิเคชันของตนเองในระดับโลกได้อีกด้วย นอกจากนี้ การเข้าร่วมใน อินเทล บิซิเนส เอ็กเชนจ์ (Intel® Business Exchange) นั้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์มีรายชื่อไปปรากฏอยู่ในตลาดออนไลน์ที่ผู้ซื้อซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถค้นหาเลือกและซื้อซอฟต์แวร์และโซลูชันที่ผ่านการรับรองแล้วเพื่อนำไปสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ธุรกิจของตนเองได้
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนเข้าร่วมแผนงานอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม กรุณาดูได้ที่ www.intel.com/partner
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551 บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความพร้อมเปิดตัวโครงการ อินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม (Intel® Software Partner Program) ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์โดยเฉพาะโครงการนี้ ซึ่งเปิดกว้างโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์อิสระที่พัฒนาแอพพลิเคชันเชิงพาณิชย์บนแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอินเทล จะมีแหล่งข้อมูลสำหรับการวางแผน ด้านเทคนิค การตลาด และการจัดจำหน่าย ซึ่งออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการนำไปใช้พัฒนาธุรกิจของตน เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รวมทั้งเป็นผู้นำในเรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์ การตลาด และเป็นต่อในการแข่งขันอีกด้วย
โครงการอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม จะช่วยให้สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสำหรับเซิร์ฟเวอร์และเครื่องลูกข่ายชนิดต่างๆ ของอินเทลได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มร.สก็อต แฮริสัน ผู้อำนวยการซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมระดับโลก กลุ่มอินเทล ซอฟต์แวร์ แอนด์ โซลูชัน กรุ๊ป กล่าวว่า "สังคมของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต้องทำงานร่วมกันมากขึ้นเพื่อให้สิ่งที่ดีและมีคุณค่ากับลูกค้า โครงการอินเทลซอฟต์แวร์ พาร์ทเนอร์โปรแกรมคือความก้าวหน้าครั้งสำคัญอีกก้าวหนึ่งของอินเทลในการลงทุนและส่งเสริมนวัตกรรมต่อสังคมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศไทย”
นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้อำนวยการ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือ ซอฟต์แวร์พาร์ค กล่าวว่า “ปัจจุบันนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยมีการพัฒนาไปจากเดิมอย่างมาก แต่หลายครั้งติดปัญหาเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่จากผู้ผลิตระดับโลก ซึ่งมักจะส่งข้อมูลให้กับบริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ก่อน นอกจากนั้นแล้วการทำการตลาดซอฟต์แวร์ในระดับโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การใช้โครงสร้างการตลาดแบบเดิมๆ เริ่มมีประสิทธิภาพน้อยลง โดยกลยุทธ์การตลาดแบบ Social Network กำลังเป็นที่จับตา”
“ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์คเองมีความพยายามที่จะส่งเสริมการพัฒนาของบริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศไทยมาโดยตลอด และโครงการนี้จะทำให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาของซอฟต์แวร์ไทยมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และไม่ติดเงื่อนไขใดๆ ทั้งในการเข้าถึงทูลส์และข้อมูลต่างๆที่มีประโยชน์นอกจากนั้นการสร้างชุมชนให้เกิดขึ้น นอกจากจะทำให้สร้างแพคเกจใหม่จากการนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมารวมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังนำไปสู่การรวมตัวกันเพื่อทำการตลาดในส่วนต่างๆ ของโลกได้ง่ายขึ้น”
มร.นาเรนดรา บันดารี ผู้อำนวยการ ซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมระดับเอเชีย แปซิฟิก กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการอินเทลซอฟต์แวร์ พาร์ทเนอร์โปรแกรม จะช่วยเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในระดับท้องถิ่น และช่วยให้มีการนำโซลูชันด้านไอทีเข้าไปใช้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของพวกเขาอีกด้วย”
สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรมมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายรวมทั้งเครื่องที่ช่วยในการวางแผนเกี่ยวกับแอพพลิเคชันของตนเอง อาทิ การฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจ และรับทราบตารางเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีของอินเทล พร้อมด้วยทูลส์ต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่จะช่วยให้เสริมศักยภาพของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ นอกจากนั้นยังช่วยให้สมาชิกทำการตลาดและจำหน่ายโซลูชันได้เร็วขึ้นอีกด้วย อาทิ การโฆษณา มีแผนการทำตลาดร่วมกัน และสามารถนำ อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ โซลูชัน แคตาล็อก (Intel® Developer Solution catalog) มาใช้เป็นช่องทางในการสาธิตแอพพลิเคชันของตนเองในระดับโลกได้อีกด้วย นอกจากนี้ การเข้าร่วมใน อินเทล บิซิเนส เอ็กเชนจ์ (Intel® Business Exchange) นั้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์มีรายชื่อไปปรากฏอยู่ในตลาดออนไลน์ที่ผู้ซื้อซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถค้นหาเลือกและซื้อซอฟต์แวร์และโซลูชันที่ผ่านการรับรองแล้วเพื่อนำไปสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ธุรกิจของตนเองได้
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนเข้าร่วมแผนงานอินเทลซอฟต์แวร์พาร์ทเนอร์โปรแกรม กรุณาดูได้ที่ www.intel.com/partner