ศรีสะเกษ – “ม็อบรถอีแต๊ก” สมัชชาเกษตรกรรายย่อย จ.ศรีสะเกษ บุกศาลากลางจังหวัด ยื่นหนังสือถึง นายกฯ “มาร์ค” ผ่าน ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ จี้ นายกฯ นั่งประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด้วยตนเอง เพื่อแก้ปัญหาและเร่งสางหนี้สินเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ พร้อมตะเพิดตัวแทนนักการเมืองพ้นจากกองทุนทุกตำแหน่ง ชี้ มีเลขาธิการกองทุนมา 14 คน ล้วนเป็นคนของนักการเมือง มุ่งหาเสียง ไม่ช่วยแก้ปัญหาเกษตรกรอย่างแท้จริง
ช่วงบ่ายวันนี้ (23 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยก ถ.สายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีเกษตรกรกลุ่มสมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 1,000 คน นำโดย นายรณชิต ทุ่มโมง และ นายสิริ จิตโคตร เดินทางมาจากอำเภอต่างๆ ของ จ.ศรีสะเกษ ด้วยรถไถนาเดินตามพ่วงท้าย หรือ “รถอีแต๊ก” และรถยนต์มารวมตัวกันก่อนเคลื่อนขบวนไปยังศาลากลางจังหวัดศรีสะเก เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร อย่างจริงจัง โดยยกเป็นวาระแห่งชาติ
จากนั้น นายรณชิต ทุ่มโมง และ นายสิริ จิตโคตร แกนนำได้สลับกันขึ้นกล่าวปราศรัยถึงข้อเรียกร้องที่เดินทางมาชุมนุมในวันนี้ พร้อมกับชูแผ่นผ้าวิจารณ์คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ว่า “เป็นรัฐบาลผ้าขาวห่อศพ”
นายรณชิต ทุ่มโมง แกนนำสมัชชาเกษตรกรรายย่อย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ประกาศบังคับใช้และก่อตั้งกองทุน มาตั้งแต่ปี 2542 ที่ผ่านมา ในสมัยของ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี จวบจนกระทั่งบัดนี้ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลได้เข้าครอบงำกองทุน โดยส่งนักการเมืองเข้ามาบริหารในตำแหน่งเลขาธิการกองทุน ทั้งหมด 14 คน ซึ่งไม่ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจัง แต่มุ่งหวังแสวงหาผลประโยชน์ในการหาเสียงเท่านั้น
รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนสร้างกฎหมายร่วมกับองค์กรเกษตรกรภาคอีสาน แต่รัฐบาลที่ผ่านมาเป็นคนทำลาย ขัดขวาง ครอบงำ กองทุนฟื้นฟูฯ โดยส่งคนของนักการเมืองมาดำรงตำแหน่งเลขาธิกานกองทุนฟื้นฟูฯ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องมาสานต่อเจตนารมย์ของกฎหมาย ในการแก้ไขปัญหาของเกษตรกร ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มารับหนังสือกับแกนนำ โดยแกนนำสมัชชา ได้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ก่อนมอบหนังสือให้กับ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ
โดยข้อเรียกร้องดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ต้องการให้ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยตรง เพราะที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ทุกยุคทุกสมัย ละเลยต่อรากเหง้าปัญหาของเกษตรกรอย่างแท้จริง 2.คืนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้แก่เกษตรกร ให้ตัวแทนนักการเมือง ออกไปจากตำแหน่งบริหารในกองทุนทุกตำแหน่ง และ 3. ให้จัดการหนี้ของเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนหนี้ไว้กับกองทุนฟื้นฟู ทุกราย
หลังจาก นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับหนังสือเพื่อส่งถึง นายกรัฐมนตรีแล้ว ได้กล่าวกับกลุ่มเกษตรกรที่มาชุมนุมว่า ปัญหากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน ซึ่งยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างจริงจัง ซึ่งนับว่าเป็นความลำบากของพี่น้องเกษตรกรอย่างแท้จริงและในโอกาสที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี และหากนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งประธานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรโดยตรง ตนมีความเชื่อมั่นว่าปัญหาของพี่น้องเกษตรกรจะหมดสิ้นไปและตนจะได้มอบให้ นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำเอาข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชน ส่งให้นายกรัฐมนตรี ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากกลุ่มสมัชชาเกษตรกรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับฟังคำชี้แจงจาก นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นที่พอใจแล้ว ต่างแยกย้ายกันกลับภูมิ ลำเนาด้วยความเรียบร้อย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ มาคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่