“กรมกร๊วก” งามหน้าอีก ปชส.อุบลฯ โวยถูกแกล้งย้ายนอกฤดู

อุบลราชธานี - นักประชาสัมพันธ์เมืองดอกบัว โวยเจ้านายสุมหัวสื่ออิทธิพล สั่งโยกย้ายนอกฤดูกาล ทั้งที่มีคำสั่งห้ามเด็ดขาด ระบุทำงานอย่างทุ่มเทไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงได้ความดีความชอบ 2 ขั้น 3 ปี แต่ผลตอบแทนถูกเตะจากจังหวัดใหญ่ไปจังหวัดเล็กเหมือนถูกลงโทษ จึงต้องลุกขึ้นสู้ ไม่หวั่นแม้จะถูกออกจากราชการ ทั้งที่เหลืออายุงานอีกกว่า 3 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 ธ.ค.) นางปรมาภรณ์ ศรีสินวรากูล ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี นำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกคำสั่งโยกย้ายนอกฤดู ซึ่งส่งถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเขต 13 และเลขาธิการ ก.พ.แจกให้กับสื่อมวลชน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมที่ถูกกลุ่มสื่ออิทธิพลในท้องถิ่น ร่วมกับข้าราชการบางคนในจังหวัด เสนอให้ย้ายนางปรมาภรณ์ไปจังหวัดอื่น เพราะไม่พอใจที่นางปรมาภรณ์ไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างให้กดหัว

โดยนางปรมาภรณ์ได้บรรยายเรื่องราวทั้งหมดว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย.กองการเจ้าหน้าที่มีหนังสือที่ นร.0203.04/2295 เรื่องการย้ายผู้บริหารระดับกลางที่ครบวาระในวันที่ 1 ต.ค. โดยกำหนดให้ผู้ครบวาระอยู่ปฏิบัติงานที่เดิมทั้งหมด เว้นกรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ต่อราชการ หรือหากไม่ย้ายจะเกิดความเสียหายแก่ราชการ หรือความจำเป็นส่วนตัวของข้าราชการ หากไม่ย้ายจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายตามความประสงค์ของผู้นั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ย. สำนักงาน ก.พ.ยังมีหนังสือแจ้งกรอบการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการระหว่างมีการปรับใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ได้กำหนดว่าให้ทุกส่วนราชการที่ยังไม่ได้ทำการโอน ย้าย เลื่อน หลังวันที่ 25 ต.ค.ปีนี้ ให้ชะลอการดำเนินการทั้งหมดเป็นการชั่วคราว จนกว่าส่วนราชการจะแต่งตั้งข้าราชการตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนใหม่แล้วเสร็จ

แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.กรมประชาสัมพันธ์มีคำสั่งที่ 1064/2551 ให้ข้าราชการจำนวน 3 รายพ้นจากหน้าที่ในตำแหน่งเดิม เพื่อย้าย สลับสับเปลี่ยนกันประกอบด้วยนางปรมาภรณ์ ศรีสินวรากูล จากอุบลราชธานีไป จ.ยโสธร นายเฉลิมชัย จันทรเสนา จาก จ.บุรีรัมย์ มา จ.อุบลราชธานี และนายพงษ์ศักดิ์ อินทรทัต จาก จ.ยโสธร ไป จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล และผู้ถูกย้ายจะเข้ากรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ต่อราชการ

หรือหากไม่ย้ายจะเกิดความเสียหายแก่ราชการ เพราะตนได้แสดงเจตจำนงไม่ขอย้ายจากตำแหน่งเดิมอยู่แล้ว

รวมทั้งหากกรมประชาสัมพันธ์จะอ้างว่า ตนถูกโยกย้ายเพราะดำรงตำแหน่งจนครบวาระแล้ว ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมีผู้ดำรงตำแหน่งของกรมที่ครบวาระในขณะนี้จำนวนทั้งสิ้น 102 คน แต่ที่เหลือยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตำแหน่งเดิม นอกจากกลุ่มอิทธิพลที่เป็นสื่อท้องถิ่นต้องการย้ายตนเองแล้ว

ยังมีข้อสังเกตคือ ตามโครงสร้างสำนักงานประชาสัมพันธ์ใหม่ กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้แทนของนักประชาสัมพันธ์ภาค 2 ก็จะได้รับการปรับยกระดับเลื่อนขึ้นไปอยู่ในระดับ 9 อย่างอัตโนมัติ ทำให้มีการเล่นเส้นสายกันในกรม เพื่อดันคนของตัวเองขึ้นมาแทนคนเก่าที่มีผลงาน

นางปรมาภรณ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ปี 2548-2551 ได้รับพิจารณาเลื่อนขั้น 2 ขั้น 3 ปี และ 1.5 ขั้น 1 ปี รวมทั้งได้รับรางวัลเป็นสำนักงานประหยัดพลังงานยอดเยี่ยมระดับประเทศจากกระทรวงพลังงาน เพราะลดการใช้กระแสไฟฟ้าในสำนักงาน ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงรถยนต์ของทางราชการ และมีการใช้วัสดุอุปกรณ์สำนักงานทุกชนิดอย่างคุ้มค่า ให้ความร่วมมือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของหน่วยราชการ

รวมทั้งเป็นผู้ประสานข้อมูลกับสื่อมวลชน เพื่อนำไปเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง จนได้รับหนังสือชมเชยการปฏิบัติงานจากหน่วยงานราชการอื่นมาโดยตลอด

“ด้วยผลงานที่ผ่านมา แทนจะได้รับการตอบแทนจากการมุมานะทำงาน โดยไม่มีวันหยุดเสาร์หรือวันอาทิตย์ แต่ปรากฏว่าถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม จึงต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ให้ถึงที่สุด และพร้อมจะลาออกจากราชการ ทั้งที่เหลืออายุราชการอีก 3 ปี หากไม่รับความเป็นธรรมจากการต่อสู้ในครั้งนี้” ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี กล่าว