xs
xsm
sm
md
lg

“แช่น้ำร้อนชิมขนมทองโย๊ะ” รับลมหนาวที่หินดาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - รับลมหนาว “แช่น้ำร้อนชิมขนมทองโย๊ะ” ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับ อบต.หินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

พุน้ำร้อนหินดาด ผาตาดธารใส ป่าไม้เขียวขจี มากมีการเกษตร สุดเขตถ้ำหม่องกะลา ข้าวเหนียวงาขนมทองโย๊ะ" คือ คำขวัญของ ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ดินแดนที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง เช่น พุน้ำร้อนหินดาด ซึ่งเป็นดินแดนแห่งความภาคภูมิใจของคนเมืองกาญจน์ เนื่องจากธารน้ำพุแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส แต่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติชื่นชอบที่จะลงไปนอนแช่ เพราะเชื่อว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

นายอำนาจ สุขเจริญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เล่าถึงที่มาของชื่อ “หินดาด” นั้นเพี้ยนมาจาก “หินดาน” คือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีชาวกะเหรี่ยงอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ 2 ฝั่งลำน้ำแควน้อย ซึ่งบริเวณนี้มีแผ่นหินขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงรายอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า “หินดาน” ต่อมาเพี้ยนเป็น “หินดาด” มาจนถึงปัจจุบัน

นายอำนาจ สุขเจริญ นายก อบต.หินดาด กล่าวต่ออีกสายหนึ่งก็เล่ากันว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน คือ หมู่บ้านหินดาดก่อตั้งมากว่า 150 ปี ผู้ก่อตั้งคือนายย่องโร่ง และนางคลีโพ้ สมัยนั้นทางราชการแต่งตั้งให้เป็นหลวงพระดีปกครองหมู่บ้านหินดาด ซึ่งปัจจุบันคือหมู่บ้านหินดาดตะวันตก โดยนายย่องโร่ง และนางคลีโพ้ มีอาชีพเก็บของป่าขาย วันหนึ่งระหว่างหาของป่าระหว่างเกิดหิวน้ำจึงลัดเลาะไปที่ลำห้วยกุยมั่ง และพบกับแอ่งน้ำ แต่เมื่อจะวักน้ำกินก็รู้สึกว่าน้ำร้อนกว่าแอ่งน้ำทั่วไป จึงกลับไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง และเรียกกันว่าพุน้ำร้อนกุยมั่ง ซึ่งชาวบ้านมักจะแวะเวียนไปนอนแช่น้ำบ้าง ดื่มกินบ้าง ด้วยความเชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้

นายอำนาจ สุขเจริญ เล่าว่า น้ำตกผาตาด ร่องรอยหลุมหลบภัยของกองทัพญี่ปุ่น จนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นกำลังก่อสร้างทางรถไฟสายมรณะไปประเทศพม่า เมื่อผ่านลำห้วยกุยมั่งได้ทราบจากชาวบ้านว่ามีแอ่งน้ำพุร้อน จึงตั้งฐานทัพอยู่บริเวณนี้ ประกอบกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นชื่นชอบการอาบน้ำร้อน จึงสร้างเป็นบ่อแช่น้ำร้อน 2 ขนาด ขนาดเล็กไว้ให้นายทหารชั้นเจ้าผู้ใหญ่ใช้ ส่วนบ่อใหญ่ไว้ให้ทหารชั้นผู้น้อยใช้ โดยพบหลุมหลบภัยจำนวนมาก และอุโมงค์ลับ จึงเชื่อได้ว่าบริเวณนี้เคยมีการจัดตั้งฐานทัพจริง ปัจจุบัน อบต.ได้ปรับปรุงบ่อน้ำร้อนรองรับนักท่องเที่ยว แต่ภูมิทัศน์โดยรอบไม่ได้ทำอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้แต่ละปีมีประมาณ 2 แสนคน และนับวันจะเพิ่มมากขึ้น

นายอำนาจ สุขเจริญ กล่าวว่า โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดยาว จะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นเป็นพิเศษ จึงทำให้บ่อน้ำพุร้อนไม่เพียงพอรองรับ ประกอบกับน้ำพุร้อนมีมากและไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงจะประสานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ของบประมาณมาขยายบ่อพุน้ำร้อนและปรับภูมิทัศน์ สร้างบ้านพักแบบรีสอร์ท ซึ่งจะทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวครบวงจร เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาลงแช่แล้วก็กลับ จึงใช้จ่ายไม่มากนัก หากดึงนักท่องเที่ยวให้ค้างคืนได้จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้

ด้าน พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ฝากบอกนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่พุน้ำร้อนแห่งนี้ว่า นักท่องเที่ยวไม่ต้องเกรงว่าจะมีอันตรายหากลงไปนอนแช่น้ำร้อน เพราะกรมทรัพยาธรณีวิทยาสำรวจพบว่าน้ำพุร้อนแห่งนี้มีค่าพีเอช 7.36 มีปริมาณแร่ธาตุที่ละลายในน้ำร้อน 560 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ละตัวไม่สูงเกินค่ามาตรฐานของน้ำที่ใช้ดื่ม น้ำพุร้อนแห่งนี้จึงใช้ดื่มได้หากไม่มีเชื้อจุลินทรีย์เจือปน เพราะน้ำใส ไม่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่มีกลิ่นก๊าซไข่เน่า และยังสามารถรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และทำให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้น ลดอาการปวดตามข้อ เส้น และกระดูก ซึ่งขณะนี้มีห้องแช่น้ำร้อนส่วนตัว และบ่อสำหรับพระสงฆ์ด้วย

พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า นอกจากพุน้ำร้อนแห่งนี้ตำบลหินดาดเรายังมีน้ำตกผาตาด น้ำตกขนาดใหญ่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หมู่ 8 บ้านวังผาตาด น้ำตกแห่งนี้เกิดจากลำห้วยเล็กๆ บริเวณเทือกเขากะลา มี 3 ชั้นสายน้ำตกไหลลงมาตามชั้นหินปูน บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ

พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังจากแช่น้ำร้อน หรืออาบน้ำเย็นจากลำธารน้ำตกผาตาดแล้ว ให้ไปลองชิมอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อ คือ ขนมทองโย๊ะ ขนมพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง มีส่วนประกอบ คือข้าวเหนียว งาดำ และเกลือ วิธีทำจะนึ่งข้าวเหนียวไว้ ส่วนงาดำตำผสมเกลือ แล้วนำข้าวเหนียวมาตำให้เข้ากัน จากนั้นตัดเป็นแผ่น เวลารับประทานจะจิ้มกับน้ำผึ้งหรือนมข้นหวานก็ได้ จะไปน้ำพุร้อนหินดาดก็ไม่ยาก อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เส้นทางกาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ผ่าน อ.ไทรโยค ไปถึง กม.ที่ 107 จะมีป้ายบอกทางเข้าน้ำพุร้อน เลี้ยวขวาเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร ใช้เวลาจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 2 ชั่วโมง ไปไม่ถูกสอบถามได้ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี เบอร์ 0-3462-5053 หรือที่ อบต.หินดาด โทร.0-3453-1048


กำลังโหลดความคิดเห็น