อุบลราชธานี - สำนักงานควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี เผยอีสานใต้มีผู้ติดเชื้อเอดส์กว่า 2 หมื่นราย เสียชีวิตแล้ว 4 พันราย โดยผู้ป่วยอยู่ในวัยแรงงานอายุ 25-34 ปีมากสุด ส่วนพื้นอันตรายคือ จ.อำนาจเจริญ ทั้งป่วย-ตายมากที่สุดในเขต วางแผนลดสถิติผู้ป่วยใน 3 ปีข้างหน้าให้ลดลงร้อยละ 50
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่หอประชุมไพพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี จัดรณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเอดส์คือ เยาวชน แม่บ้าน ชายรักร่วมเพศ ผู้ให้บริการทางเพศ ประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์ และตระหนักปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ โดยส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธุ์มากขึ้น สำหรับกลุ่มเป้าหมายของการรณรงค์คือ คนหนุ่มสาวอายุ 15-24 ปี และกลุ่มคนใช้แรงงาน
นางมนัสนันท์ ลิมปวิทยากุล นักวิชาการสาธารณสุข 9 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยเอดส์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2551 ในความรับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี มีจำนวนทั้งสิ้น 20,041 ราย เป็นเพศชาย 13,201 ราย เพศหญิง 6,840 ราย เสียชีวิตแล้ว 4,014 ราย เพศชาย 2, 717 ราย เพศหญิง 1,297 ราย
โดยปัจจุบันแนวโน้มของผู้ป่วยเอดส์และเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ลดลงกว่าอดีต เพราะผู้ป่วยเอดส์เข้าถึงยาต้านไวรัสมากขึ้น
สำหรับจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ จังหวัดอำนาจเจริญ รองลงมาจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี ส่วนอัตราการตายสูงสุดยังเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดอำนาจเจริญ รองลงมาคือ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดมุกดาหาร กลุ่มอายุผู้ป่วยโรคเอดส์มากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 25-34 ปี มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 10,791 ราย คิดเป็นร้อยละ 53.8 รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 35-44 ปี มีผู้ป่วย 5,112 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.51 ส่วนผู้ป่วยต่ำสุดอยู่ในกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป ปัจจัยเสี่ยงคือการมีเพศสัมพันธุ์ถึงร้อยละ 81.89 ติดเชื้อจากมารดาร้อยละ 5.11
สาเหตุและปัจจัยการติดเชื้อส่วนใหญ่มีผลต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์มาจากการดูหนังโป๊ หรือวิดีโอโป๊ และเยาวชนในวัยเรียนชายมีการใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเพียง 45.52% และใช้ถุงยางอนามัยกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่คนรัก หรือแฟน 56.35% และฝ่ายหญิงมีการใช้ถุงยางอนามัยเพียง 39.0% เฉลี่ยภาพรวมของเขต 7 พบว่าความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ของกลุ่มนักเรียน นักศึกษาคือ มีการจับคู่และมีเพศสัมพันธุ์ตั้งแต่อายุยังน้อยเฉลี่ยอายุ 14 ปี
สำหรับยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติระหว่างปี พ.ศ.2550-2554 คือให้จังหวัดและท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดูแลป้องกันแก้ไขปัญหาเอดส์ในพื้นที่ บูรณาการระบบการป้องกันในกลุ่มเสี่ยงสำคัญในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มชายรักชาย พร้อมให้ความรู้การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2554
