พิจิตร – ชาวนาเมืองชาละวันบุกยึดศาลากลางพิจิตรนานกว่า 3 ชั่วโมง กดดันผู้ว่าฯให้ออกมาเจรจาแก้ปัญหาจำนำข้าวฉาว หลังถูกโรงสีเอาเปรียบสารพัด-รัฐเมินเฉย ยื่น 6 เงื่อนไข สุดท้ายผู้ว่าฯ ยอมออกจากห้องตั้งวงจราจารับข้อเสนอทั้งหมดจึงยอมสลายตัว
วันนี้ (21 พ.ย.2551) นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ต้องเปิดโต๊ะเจรจากับชาวนาถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของพิจิตรที่ยังคงมีปัญหาประท้วงรายวัน
เมื่อเวลา 10.45 น. ชาวนาจังหวัดพิจิตร จากอำเภอเมือง อำเภอวังทรายพูน อำเภอสากเหล็ก ไม่น้อยกว่า 300 คน เดินทางมาโดยรถกระบะและรถอีแต๋น มาร่วมชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อขอเข้าร้องทุกข์ กับผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร โดยมีนายมนัส สังข์ทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บ้านบุ่ง อ.เมือง จ.พิจิตร และนายสมบรูณ์ พวงพันธ์ นายกสมาคมเกษตรกรชาวนาทับคล้อ ,นายยกอบต.ท้ายทุ่ง อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นแกนนำ
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่พอใจโครงการรับจำนำข้าวที่ถูกโรงสีกดราคา ทั้งๆที่ปลูกข้าวหอมมะลิ แต่ถูกโรงสีตีราคาให้เป็นข้าวธรรมดา และถูกเอาเปรียบทั้งเครื่องชั่งน้ำหนัก - เครื่องวัดความชื้น ทุกรูปแบบ รวมถึงกล่าวหาว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ดำเนินการโดยรัฐบาลไม่ใส่ใจชาวนา
นอกจากนี้กรณีที่กำหนดให้มีตัวแทนชาวนานั่งประจำที่โรงสี เพื่อรักษาผลประโยชน์ชาวนา ก็กลายเป็นคนของโรงสี - ไม่มีความรู้ไม่มาทำงานจริง แต่ใช้วิธีลงนามย้อนหลัง ส่วนเจ้าหน้าที่ อคส. อตก. ก็ให้ความสำคัญแต่เถ้าแก่โรงสีเห็นชาวนาเป็นเหยื่อ จนทนไม่ไหวจึงยกพวกมาประท้วงถึงหน้าสาลากลาง
กลุ่มชาวนานั่งรอ 2 ชั่วโมง ผวจ.พิจิตร ก็มอบให้นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผวจ.พิจิตร ไปเจราจา แต่นายยุทธนา ก็ติดประชุมกับเจ้าหน้าที่ ก.พาณิชย์ ตำรวจ ตัวแทนเกษตรกร เถ้าแก่โรงสี ถึงเรื่องการช่วยชาวนาอยู่จึงไม่ได้ลงไปพบชาวนา
ทำให้ชาวนากลุ่มดังกล่าวที่โกรธแค้นความไม่ใส่ใจของรัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าว ประกอบกับนั่งชุมนุมกลางแดด ตัดสินใจบุกฝ่าแนวกั้นของตำรวจ และ อส.กว่า 50 นาย ที่ตั้งแถวกันอยู่หน้าประตูขึ้นศาลากลางจนสามารถบุกไปได้ถึงชั้น 3 พล.ต.ต.ชวลิต ชาญเวชช์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรพิจิตร ก็ออกมาสกัดไม่ให้ขึ้นไปถึงชั้น 4 คือห้องทำงานของผู้ว่าฯ ทำให้ชาวนาไม่พอใจส่งเสียงโห่ไล่สนั่นศาลากลางจังหวัด
จนในที่สุดนายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ต้องลงมาเจรจาและเกลี้ยกล่อมขอให้ลงมาคุยกันที่ลานกลางแจ้ง ซึ่งชาวนาก็ยอมแต่โดยดี
ผู้ว่าฯยอมรับข้อเสนอ 6 ข้อ ของชาวนา คือ 1.ข้าวหอมมะลิพิจิตรที่ส่งมอบแล้วต้องได้ราคาเพิ่ม 2.ข้าวหอมมะลิพิจิตรที่ส่งมอบ 14-19 พ.ย. ต้องได้ราคาตามบิลที่โรงสีออกให้ 3.ข้าวหอมมะลิที่อยู่ในทุ่งนากำลังจะเกี่ยวต้องตีราคาตามเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ตีเหมาให้ต่ำกว่าหมื่นแล้วอ้างเป็นข้าวป่นไม่วัดความชื้น เพราะช่วงต้นฤดูที่ผ่านมาข้าวมีความชื้น โรงสีก็เอาเปรียบไปรอบหนึ่งแล้วคราวนี้จึงไม่ยอมอย่างเด็ดขาด
4.ส่งมอบข้าวที่เข้าจำนำแล้วต้องได้ใบประทวนไปขึ้นเงินที่ ธกส.ได้ภายใน 7 วัน 5.โรงสีจะหยุดรับจำนำต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และ 6.ข้าวที่ปลูกใช้พันธุ์ข้าวหอมมะลิ ต้องได้ราคาเป็นข้าวหอมมะลิจริงๆไม่ใช่ได้ราคาข้าวหอมจังหวัด เพราะชาวนาปลูกแต่ข้าวหอมมะลิ ไม่เคยปลูกข้าวหอมจังหวัดเลย
ผู้ว่าฯได้เจรจากับชาวนาเป็นเวลาเกือบ 1ชั่วโมง ก่อนที่ยอมรับปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง ชาวนาจึงได้สลายตัวกลับไป
