ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายทุนยังไม่หยุดรุกที่หลวง ดำเนินการด้านนายอำเภอศรีราชา ยืนยันปัญหาที่ดินมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จะไม่มีการเซ็นอนุญาตอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ หากนักลงทุนมั่นใจในเอกสารสิทธิ เร่งยื่นฟ้องศาลปกครองพิสูจน์กรรมสิทธิ์ต่อไป
นายฐานิศร์ น้อยเพ็ง นายอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึงกรณีที่ดินสาธารณประโยชน์ บริเวณเขาน้ำซับ หมู่ 1 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา ติดริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยาติดรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชานั้น ได้มีนักลงทุนในพื้นที่และจากส่วนกลางเข้าไปปรับและถมดินเพื่อก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ในเนื้อที่กว่า 30 ไร่
โดยได้ทุ่มงบประมาณเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโครงการนี้ ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เนื่องจากเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ (ชายเขา) ที่มีประชาชนใช้ร่วมกัน โดยมีพื้นที่ทั้งสิ้นจำนวน 400 ไร่
ที่ดินดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนในสมัยสมบูรนายาสิทธิราช ในช่วงปี พ.ศ.2474 จำนวน 400 ไร่แต่ก็ไม่ทราบแนวเขตที่ชัดเจน แต่ในระยะหลังได้มีหน่วยงานต่างๆ ขอใช้พื้นที่ เช่น พัฒนาที่ดิน, ศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้, การประปา, เทศบาลอ่าวอุดมในอดีต ซึ่งปัจจุบันได้ยกฐานะและแบ่งพื้นที่เป็นเทศบาลสุรศักดิ์และเทศบาลแหลมฉบัง โรงพยาบาลอ่าวอุดม ในขณะนี้
นายฐานิศร์ กล่าวต่อว่า ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ได้ขอใช้พื้นที่เช่นกันโดยขอใช้พื้นที่ทั้งสิ้น 200 กว่าไร่ ซึ่งในสมัยนั้นนายวิเชียร นวภูติ นายอำเภอศรีราชา ได้ออกเป็นแนวเขต (นสล.) ในพื้นที่ดังกล่าว แต่มีอยู่แปลงบริเวณด้านซ้ายสุดถูกคัดค้านโดยนายเบี้ยว ขำเจริญ ออกมาคัดค้านไม่ให้ออก นสล.หลังมีประชาชนออกมาคัดค้าน ทางนายอำเภอในช่วงนั้นได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมจนกลายเป็นพื้นร้องค้านหรือที่พิพาททำให้ไม่สามารถออก นสล.ได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ทั้งหมด ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ข้อใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งรวมถึงครึ่งหนึ่งของสระน้ำดังกล่าวด้วย
ขณะนี้นักลงทุนมั่นใจว่าพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องและขอให้ตนเซ็นต์รับรองเพื่อยืนยัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการตามที่เรียกร้องได้ เพราะหากตนเซ็นต์อนุมัติ ก็จะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานอย่างแน่นอน โดยหากนักลงทุนมั่นใจในเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงนั้น ก็ให้ไปทำการฟ้องร้องศาลปกครอง เพื่อพิสูจน์กรรมสิทธิ์กันต่อไป เพราะเมื่อมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องนำหลักฐานที่มีอยู่มายืนยันในชั้นศาล
ล่าสุดในช่วงนี้กลุ่มนายทุนได้นำรถแบ็กโฮ พร้อมรถบรรทุกเข้าไปขนดินวิ่งเข้าออกบริเวณพื้นที่ดังกล่าว อย่างต่อเนื่อง แม้พื้นที่ดังกล่าวยังมีปัญหาก็ตาม แต่นักลงทุนไม่ได้สนใจแต่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาในขณะที่นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในอดีตดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้ มีการสั่งให้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในขณะนั้นได้มีการหยุดดำเนินการไประยะหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีการเร่งดำเนินการปรับหน้าดินใหม่อีกครั้ง