นครศรีธรรมราช – จังหวัดนครศรีธรรมราช ระดม อปท.พร้อมรับมืออุทกภัย-ดินถล่ม สำรองงบ 50 ล้านพร้อมสนับสนุนกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน
ว่าที่ร้อยตรี ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้มีการเรียกประชุม หัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เสี่ยงใน 23 อำเภอเข้าร่วมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน และตลอดฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัย ของ 10 อำเภอ 15 ตำบล 21 หมู่บ้าน บริเวณที่ราบลุ่ม ที่ราบเชิงเขา และบริเวณชายฝั่งทะเล
ทั้งนี้ เนื่องจากกรมอุตินิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกที่เคลื่อนตัวผ่านและผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญา อาจทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นและฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรงอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มขึ้นได้
โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยชีวิต ตลอดจนการซักซ้อมความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดทักษะมีความพร้อมและเข้าใจร่วมกันในแนวทางการป้องกันและให้ความช่วยเหลือเพื่อลดตัวเลขความสูญเสีย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมเงินทดรองราชการร่วม 50 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ทั้งเหตุอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม
พร้อมทั้งได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านพืชและเกษตร การเตรียมการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์ ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบจากอุทกภัยแหล่งเพาะเลี้ยงปลาและเรือประมง รวมการทั้งการรายงานความเสียหาย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกประเภท
เบื้องต้นได้ระดมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตจากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมดังนี้ เรือท้องแบน 75 ลำ, รถกู้ภัย 3 คัน, รถเคลื่อนที่เร็ว 24 คัน, รถบรรทุก 123 คัน, รถยก 22 คัน, รถแทรกเตอร์ 8 คัน, รถตัก 9 คัน, รถแบ็กโฮ 19 คันและเครื่องสูบน้ำ 98 เครื่อง
ว่าที่ร้อยตรี ฐิตวัฒน เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้มีการเรียกประชุม หัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่เสี่ยงใน 23 อำเภอเข้าร่วมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน และตลอดฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เสี่ยงภัย ของ 10 อำเภอ 15 ตำบล 21 หมู่บ้าน บริเวณที่ราบลุ่ม ที่ราบเชิงเขา และบริเวณชายฝั่งทะเล
ทั้งนี้ เนื่องจากกรมอุตินิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งอิทธิพลจากพายุหมุนเขตร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกที่เคลื่อนตัวผ่านและผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานีญา อาจทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นและฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรงอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มขึ้นได้
โดยการประชุมในครั้งนี้เป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยชีวิต ตลอดจนการซักซ้อมความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดทักษะมีความพร้อมและเข้าใจร่วมกันในแนวทางการป้องกันและให้ความช่วยเหลือเพื่อลดตัวเลขความสูญเสีย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า ทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมเงินทดรองราชการร่วม 50 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ทั้งเหตุอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม
พร้อมทั้งได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านพืชและเกษตร การเตรียมการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์ ปัญหาที่เกิดจากผลกระทบจากอุทกภัยแหล่งเพาะเลี้ยงปลาและเรือประมง รวมการทั้งการรายงานความเสียหาย และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกประเภท
เบื้องต้นได้ระดมเครื่องจักรกล ยานพาหนะและเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตจากภาคส่วนและองค์กรต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมดังนี้ เรือท้องแบน 75 ลำ, รถกู้ภัย 3 คัน, รถเคลื่อนที่เร็ว 24 คัน, รถบรรทุก 123 คัน, รถยก 22 คัน, รถแทรกเตอร์ 8 คัน, รถตัก 9 คัน, รถแบ็กโฮ 19 คันและเครื่องสูบน้ำ 98 เครื่อง