ศูนย์ข่าวศรีราชา - สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี ตั้งศูนย์เฝ้าระวังพนักงานตกงานไม่มีงานทำ หลังแนวโน้มกลุ่มโรงงานปิดหรือเลิกกิจการ เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ด้านจังหวัดพร้อมประสานรัฐบาลช่วยเหลือ
นายอิทธิพล แผ่นเงิน หัวหน้าสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเงินทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจถดถอยนั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐมนตรีว่ากรกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานทั่วประเทศ เฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่ามีการเลิกจ้างแรงงานและมีการปิดกิจการหรือไม่อย่างไร โดยสามารถแจ้งหรือประสานมาที่สำนักงานได้ทันที
สำหรับในส่วนจังหวัดชลบุรีนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานหรือร้องเรียนว่ามีการเลิกจ้างหรือปิดกิจการ มีเพียงบางโรงงานเท่านั้น ที่ลดค่าใช้จ่ายเพื่อประคองให้อยู่รอด เช่น งดให้พนักงานทำงานล่วงเวลา (โอที), ลดต้นทุนการผลิต และลดกำลังการผลิตลง ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบ พบว่าพนักงานส่วนใหญ่เข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจที่เกิดทั่วโลก คาดว่าจังหวัดชลบุรีคงจะไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่อย่างใดก็จะเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอดไป
นายอิทธิพล กล่าวต่อไปว่า ตนได้ขอความร่วมมือกับนายจ้าง และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ นำมาตรการแนวทางบรรเทาปัญหาการเลิกจ้างไปใช้ในการปรับปรุงการบริหารจัดการ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างที่อาจจะถูกเลิกจ้างจากการปรับตัวของสถานประกอบกิจการ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดภายใต้สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ โดยมาตรการดังกล่าว ยึดหลักการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อลูกจ้างน้อยที่สุด ได้แก่ มาตรการในการลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและด้านแรงงาน เช่น การประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการ ลดต้นทุนการผลิต ลดการทำงานล่วงเวลา งดรับลูกจ้างเพิ่ม โยกย้ายคนจากแผนกที่งานน้อยไปแผนกที่ต้องการคนงานเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมของงาน จัดทำโครงการเกษียณก่อนกำหนด หรือโครงการสมัครใจลาออก เป็นต้น
ด้าน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงปัญหาวิกฤตแรงงานที่จะได้รับผลกระทบหลังเศรษฐกิจนานาประเทศทั่วโลกตกต่ำ ซึ่งเรื่องนี้ตนมองว่า จังหวัดชลบุรี ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไร เนื่องจากจังหวัดชลบุรีมีศักยภาพในตัวเอง เช่น ด้านแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพราะในช่วงปี 2540 ที่ผ่านมา หลายๆ พื้นที่ได้รับผลกระทบแต่จังหวัดชลบุรี ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนจังหวัดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทางโรงงานคงต้องพิจารณาลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเพื่อลดต้นทุนในส่วนนั้นไป เช่น ลดค่าโฆษณา
ส่วนความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐนั้น ทางจังหวัดอาจนำเสนอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น กรณีค่ากระแสไฟฟ้า, ค่าน้ำ หรือค่าน้ำมัน นอกจากนั้น ในส่วนของภาคเกษตรกร กรณีเงินกู้จากธนาคาร ธ.ก.ส.ในการพักชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ โดยจังหวัดอาจนำเสนอรัฐบาลต่อไป