เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอีกเมื่อวันอังคาร (7) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อที่นำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย หลังมีข่าวลือว่าโอเปกอาจลดกำลังการผลิตลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ทรุดลง 508.39 จุด (5.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดในระดับต่ำสุดรอบ 5 ปี ที่ 9,447.11 จุด หลังจากดิ่งลง 369 จุดเมื่อวันจันทร์ (6)
ขณะที่ ดัชนีแนสแด็ก ตกลง 108.08 จุด (5.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,754.88 และดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ 500 ลดลง 60.66 จุด (5.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 996.23 จุด ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีเช่นกัน
นักวิเคราะห์ของชาร์ลส์ สควาบ แอนด์ โค กล่าวว่า ตลาดดิ่งลงจาก “ความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับวิกฤตสินเชื่อและวิตกเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจ และซ้ำเติมด้วยความเห็นของ เบน เบอร์นานเก ประธานกลางของสหรัฐฯ”
ด้านราคาน้ำมันดีดกลับมาอีกครั้งในวันอังคาร (7) หลังตลาดมีข่าวลือเกี่ยวกับการลดกำลังผลิตของโอเปกและการพร้อมใจกันลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของหลายประเทศเพื่อรับมือกับวิกฤตทางการเงินของโลก
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ขยับขึ้นมา 2.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือของลอนดอน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 98 เซนต์ ปิดที่ 84.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงต่ำกว่า 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ (6) ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 8 เดือน สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงทางการเงินและการร่วงลงของตลาดหุ้นเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับดีมานด์ที่ลดลง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันขยับตัวขึ้นในวันอังคาร เกิดขึ้นหลังจากลิเบีย หนึ่งในสมาชิกโอเปก เรียกร้องชาติผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตลงหากว่าการซื้อขายในตลาดยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน