ศรีสะเกษ – ศาล จ.ศรีสะเกษ ร่วม กยศ. เปิดไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีเงินกู้ยืมศึกษาก่อนฟ้องกว่า 4,000 ราย เพื่อเปิดโอกาสให้ นร.-นศ.ลูกหนี้ได้เจรจาหาแนวทางแก้ไขหนี้ ผ่อนผันการชำระหนี้ และลดปริมาณคดีขึ้นสู่ชั้นศาล คาดไกล่เกลี่ยสำเร็จ 30% ขณะพระหนุ่มกู้เงินเรียนวิศวะ เครื่องกล ม.อุบลฯ ร่วมเข้าสู่กระบวนไกล่เกลี่ย ประกาศพร้อมใช้หนี้เงินกู้คืนเพื่อรุ่นน้องได้มีเงินกู้เรียนต่อ
วันนี้ (4 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายวชิระ เศษแสงศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานเปิดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ซึ่งศาลจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับสำนักระงับข้อพิพาท และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดขึ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้เจรจาหาแนวทางแก้ไขหนี้ ขอผ่อนผันการชำระหนี้ ลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ชั้นศาล
รวมทั้งรณรงค์ให้เห็นความสำคัญของระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง ซึ่งเป็นผลดีต่อศาลในการช่วยลดคดีประเภทเงินกู้กองทุนต่างๆ รวมทั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยมีบรรดากลุ่มนักเรียน นักศึกษา ผู้ที่กู้ยืมเงินไปเรียนหนังสือแล้วยังไม่ได้ใช้หนี้มาเข้าร่วมไกล่เกลี่ยกันเป็นจำนวนมาก
นายวชิระ เศษแสงศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ถือว่าเป็นการช่วยลดปัญหาของนักเรียน นักศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นลูกหนี้ ที่กู้ยืมเงินจากกองทุน และค้างชำระหนี้ ตั้งแต่ 5 งวดขึ้นไป ซึ่งมีลูกหนี้ของ กยศ.เข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวนประมาณ 4,168ราย
การจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยได้ประมาณ 30% ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักศึกษาเอง ที่จะได้หาแนวทางการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ที่ค้างชำระ กับกองทุนฯ ซึ่งเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวลูกหนี้เอง เพราะถ้าไม่มีการฟ้องคดีก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย และศาลจังหวัดศรีสะเกษก็มีปริมาณคดีที่จะเข้าสู่ชั้นศาลลดลงเช่นกัน
นายวชิระ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถิติลูกหนี้ของ กยศ.นั้น ปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 300-400 ราย ซึ่งมียอดเงินหลายร้อยล้านบาท ในปีที่แล้วจังหวัดศรีสะเกษทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสำเร็จไปประมาณ 1,200 ราย ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร ดังนั้น ขอเชิญชวนลูกหนี้ของ กยศ.ทุกรายที่มีปัญหาค้างชำระเงินคืนมาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพราะจะเป็นประโยชน์กับตัวผู้กู้เอง ส่วนที่มีข่าวว่าไม่ต้องชำระหนี้ นั้นขอยืนยันว่าไม่ไช่ความจริง เพราะยังไงก็ต้องชำระหนี้ที่ยืมไปอย่างแน่นอน
ทางด้าน พระวุฒิพงษ์ ปัญญาธโร พระลูกวัดบ้านดูน ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้กู้เงินจำนวน 332,000 บาท เพื่อไปเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เครื่องกล สำเร็จการศึกษาเมื่อปี 2547 ซึ่งได้ส่งคืนเงินกู้ยืมเรียนมาโดยตลอด และขณะนี้เหลือหนี้เงินกู้อยู่ 69,164.08 บาท และได้มาเข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยนี้ด้วย เพื่อขอผ่อนผันการชำระ โดยจะส่งใช้หนี้เงินกู้ยืมเรียนที่ยังค้างอยู่ให้หมดสิ้นภายใน มี.ค 2552 ให้ได้เพื่อนักเรียนนักศึกษารุ่นน้องจะได้กู้เงินไปเรียนหนังสือต่อไป
