ผู้จัดการ กยศ.เผย ปีนี้มีผู้กู้ กยศ.มาชำระหนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้กองทุนมีเงินเข้ามาหมุนเวียนอีก 2,800 ล้านบาท ด้านวิทยาลัยชุมชน วอน กยศ.คงยอดจัดสรรสิทธิ์กู้ยืมหลังนักศึกษายื่นเรื่องไม่ทัน เหตุเปิดเรียนช้ากว่าอุดมศึกษาอื่น
นายแพทย์ ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ปีนี้ มีผู้กู้ยืมเงิน กยศ.ที่ครบกำหนดชำระหนี้ มาชำระหนี้ทั้งสิ้น 1,500,000 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของจำนวนผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ทั้งหมด 2,000,000 คน ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาที่มีผู้กู้มาชำระหนี้ประมาณร้อยละ 70 โดยในช่วง 3 เดือนที่ครบกำหนดชำระหนี้ คือ มิ.ย.-ก.ค.ปีนี้ กยศ.ได้รับเงินจากการชำระหนี้ 2,800 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งได้รับเงินจากการชำระหนี้ 2,100 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ ผู้กู้ กยศ.มีความเข้าใจกองทุนมากขึ้น และเป็นห่วงน้องๆ รุ่นหลัง ซึ่งกำลังรอเงินจากการชำระหนี้มาหมุนเวียนให้กู้ต่อไป
ส่วนผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ ที่ยังไม่ได้มาติดต่อขอชำระหนี้ นายแพทย์ ธาดา กล่าวว่า กองทุนพยายามส่งจดหมายติดต่อเพื่อแจ้งเตือนว่าครบกำหนดที่จะต้องชำระหนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ได้ติดต่อชำระหนี้นาน 4 ปีติดต่อกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เพราะกองทุนจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อติดตามให้นำเงินมาชำระหนี้ เพราะหนี้ส่วนนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองทุน ดังนั้น จึงอยากฝากถึงผู้ที่ไม่เคยติดต่อขอชำระหนี้กับกองทุนเลย ว่ายังไม่สายที่จะติดต่อขอชำระเงินคืนกองทุนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ด้าน น.ส.สุนันทา แสงทอง ผู้อำนวยการ สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2552 นี้ กยศ.ได้จัดสรรสิทธิ์กู้ยืมให้นักศึกษาใหม่ระดับอนุปริญญา ชั้นปีที่ 1 ของวิทยาลัยชุมชน จำนวน 180 ทุน คิดเป็นวงเงินประมาณ 4.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2551 ที่ได้รับการจัดสรรเพียง 88 ทุน แต่ขณะนี้มีนักศึกษาของวิทยาลัยชุมชนยื่นเรื่องของกู้จาก กยศ.เพียง 130 คน จากวิทยาลัยชุมชน 15 แห่ง ซึ่ง วชช.ที่มีนักศึกษาของกู้มากที่สุด ได้แก่ มุกดาหาร นราธิวาส และ หนองบัวลำภู ส่วน วชช.ที่ไม่มีนักศึกษาแจ้งความจำนงของกู้ ได้แก่ สงขลา สระแก้ว สมุทรสาคร และ ตราด ทำให้เหลือสิทธิ์ที่ได้รับการจัดสรรอีกจำนวน 50 ทุน ส่งผลให้สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน ได้ทำหนังสือถึง กยศ.ขอยอดคงเหลือจัดสรรไว้สำหรับรอบต่อไป นอกจากนี้ กยศ.ยังได้จัดสรรวงเงินกู้ยืมให้กับผู้กู้รายใหม่ที่เป็นนักศึกษาระดับอนุปริญญาชั้นปีที่ 2 อีกจำนวน 39 คน คิดเป็นวงเงิน 9.6 แสนบาท
ทั้งนี้ อยากขอร้องให้ กยศ.คงยอดจัดสรรสิทธิ์กู้ยืมจำนวน 50 ทุนของ วชช.ไว้ก่อน เนื่องจาก วชช.บางแห่งเปิดการเรียนการสอนช้ากว่าสถาบันอุดมศึกษาอื่น ทำให้นักศึกษาที่มีความประสงค์ของกู้ยืมเรียน จัดเตรียมเอกสารไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ขอกู้รอบแรกนี้ ขณะนี้ วชช.ได้จัดส่งเอกสารให้กับ กยศ. เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ คาดว่า นักศึกษาจะได้รับสรรเงินภายในเดือนสิงหาคมนี้
นายแพทย์ ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ปีนี้ มีผู้กู้ยืมเงิน กยศ.ที่ครบกำหนดชำระหนี้ มาชำระหนี้ทั้งสิ้น 1,500,000 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ของจำนวนผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ทั้งหมด 2,000,000 คน ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาที่มีผู้กู้มาชำระหนี้ประมาณร้อยละ 70 โดยในช่วง 3 เดือนที่ครบกำหนดชำระหนี้ คือ มิ.ย.-ก.ค.ปีนี้ กยศ.ได้รับเงินจากการชำระหนี้ 2,800 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งได้รับเงินจากการชำระหนี้ 2,100 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ ผู้กู้ กยศ.มีความเข้าใจกองทุนมากขึ้น และเป็นห่วงน้องๆ รุ่นหลัง ซึ่งกำลังรอเงินจากการชำระหนี้มาหมุนเวียนให้กู้ต่อไป
ส่วนผู้กู้ที่ครบกำหนดชำระหนี้ ที่ยังไม่ได้มาติดต่อขอชำระหนี้ นายแพทย์ ธาดา กล่าวว่า กองทุนพยายามส่งจดหมายติดต่อเพื่อแจ้งเตือนว่าครบกำหนดที่จะต้องชำระหนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ไม่ได้ติดต่อชำระหนี้นาน 4 ปีติดต่อกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เพราะกองทุนจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อติดตามให้นำเงินมาชำระหนี้ เพราะหนี้ส่วนนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองทุน ดังนั้น จึงอยากฝากถึงผู้ที่ไม่เคยติดต่อขอชำระหนี้กับกองทุนเลย ว่ายังไม่สายที่จะติดต่อขอชำระเงินคืนกองทุนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ด้าน น.ส.สุนันทา แสงทอง ผู้อำนวยการ สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2552 นี้ กยศ.ได้จัดสรรสิทธิ์กู้ยืมให้นักศึกษาใหม่ระดับอนุปริญญา ชั้นปีที่ 1 ของวิทยาลัยชุมชน จำนวน 180 ทุน คิดเป็นวงเงินประมาณ 4.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2551 ที่ได้รับการจัดสรรเพียง 88 ทุน แต่ขณะนี้มีนักศึกษาของวิทยาลัยชุมชนยื่นเรื่องของกู้จาก กยศ.เพียง 130 คน จากวิทยาลัยชุมชน 15 แห่ง ซึ่ง วชช.ที่มีนักศึกษาของกู้มากที่สุด ได้แก่ มุกดาหาร นราธิวาส และ หนองบัวลำภู ส่วน วชช.ที่ไม่มีนักศึกษาแจ้งความจำนงของกู้ ได้แก่ สงขลา สระแก้ว สมุทรสาคร และ ตราด ทำให้เหลือสิทธิ์ที่ได้รับการจัดสรรอีกจำนวน 50 ทุน ส่งผลให้สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน ได้ทำหนังสือถึง กยศ.ขอยอดคงเหลือจัดสรรไว้สำหรับรอบต่อไป นอกจากนี้ กยศ.ยังได้จัดสรรวงเงินกู้ยืมให้กับผู้กู้รายใหม่ที่เป็นนักศึกษาระดับอนุปริญญาชั้นปีที่ 2 อีกจำนวน 39 คน คิดเป็นวงเงิน 9.6 แสนบาท
ทั้งนี้ อยากขอร้องให้ กยศ.คงยอดจัดสรรสิทธิ์กู้ยืมจำนวน 50 ทุนของ วชช.ไว้ก่อน เนื่องจาก วชช.บางแห่งเปิดการเรียนการสอนช้ากว่าสถาบันอุดมศึกษาอื่น ทำให้นักศึกษาที่มีความประสงค์ของกู้ยืมเรียน จัดเตรียมเอกสารไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ขอกู้รอบแรกนี้ ขณะนี้ วชช.ได้จัดส่งเอกสารให้กับ กยศ. เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ คาดว่า นักศึกษาจะได้รับสรรเงินภายในเดือนสิงหาคมนี้
