“ชัยวุฒิ” เผยผลสำรวจความต้องการของคณะ สาขาวิชา ในการรับแอดมิชชันกลาง เป็นงง!! หลังพบคณะวิศวะเมินใช้ PAT3 คัดเลือก ทั้งที่เป็นความถนัดทางวิชาชีพวิศวกรรมศาสตร์ วอนคณบดีทั่วประเทศพิจารณาให้รอบคอบ ขณะที่คณะศิลปกรรมฯ ขอแตก PAT6 ศิลปกรรมศาสตร์ เป็น 6.1-6.12 เสนอตั้งหน่วยทดสอบกลางจัดสอบโดยเฉพาะ พร้อมเร่งหาข้อสรุปก่อนถก ทปอ.วิชาการ 31 ก.ค. - 1 ส.ค.นี้
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ในวันที่ 31 ก.ค. - 1 ส.ค.นี้จะมีการจัดประชุมวิชาการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ในเรื่องการจัดสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือแอดมิชชัน ซึ่งเคยจัดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็น ครั้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่ที่ประชุม ทปอ.ในเดือน ส.ค.นี้ ถึงข้อสรุปในทุกเรื่อง และจากการประชุม ทปอ.ในครั้งที่ผ่านมานั้นตนได้มอบนโยบายว่าอยากให้มหาวิทยาลัย คณะวิชาที่จะรับตรงเข้ามาสู่ระบบแอดมิชชันกลางให้มากขึ้น โดยมอบให้ ทปอ. และสถาบันทดสอบทางการศึกษา (สทศ.) ทำการสำรวจว่าคณะวิชาทั้งหลายที่บอกว่าแอดมิชชันกลางไม่สนองตอบนั้น แล้วสิ่งที่ต้องการคืออะไร อยากให้มีการสอบในสัดส่วนอย่างไร
ทั้งนี้ จากการสำรวจใน 31 สถาบันการศึกษา พบข้อมูลเบื้องต้นว่า คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ อยากได้สัดส่วนผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย (GPAX) 10% การทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) 20% การทดสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ PAT1 คณิตศาสตร์ 20% PAT 2 วิทยาศาสตร์ อีก 50% ส่วนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ใช้ประกอบการพิจารณาเท่านั้นโดยไม่นำมาคิดคะแนน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า PAT 3 วิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นความถนัดในวิชาชีพแต่กลับไม่นำมาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือก ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปถึงคณบดีคณะวิศวกรรศาสตร์ทั่วประเทศว่าสัดส่วนดังกล่าวได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และตัดสินใจถูกต้องแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ขอให้ไปหารือร่วมกันอีกครั้งในการประชุมครั้ง
นายชัยวุฒิกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าคณะศิลปกรรมศาสตร์ขอแตกย่อย PAT 6 ในส่วนของความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์ เพิ่มขึ้นเป็น PAT 6.1-6.12 อาทิ ทฤษฎีความรู้ทั่วไปทางศิลปะ ศิลปะการแสดง ดนตรีไทย ดนตรีสากล ซึ่งในประเด็นนี้ มีข้อเสนอเบื้องต้นของคณะทำงานศึกษาระบบแอดมิชชันของ ทปอ.ว่าให้กลุ่มสาขาศิลปกรรมศาสตร์จัดตั้งหน่วยสอบกลางขึ้นมาจัดสอบโดยเฉพาะ และจัดทำเกณฑ์ให้แต่ละคณะนำไปพิจารณากันเอง ทั้งนี้จะมีการนำสัดส่วนและองค์ประกอบดังกล่าวเข้าพิจารณาในการประชุมทางวิชาการของ ทปอ.ครั้งที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ยังจะมีการพิจารณาองค์ประกอบและค่าน้ำหนักในอนาคต ทั้ง 9 กลุ่มสาขา พร้อมทั้งมาตรฐาน ข้อสอบ และการบริหารจัดการว่าจะจัดสอบกี่ครั้ง ค่าใช้จ่ายในการสอบต่อวิชา และอายุของคะแนนเป็นอย่างไร เพื่อหาข้อสรุปเสนอ ทปอ.พิจารณาชี้ขาดในเดือน ส.ค.ต่อไป
