ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้เข้าประกวด “มิสทีน ไทยแลนด์ 2008” เชื่อศาสตร์ช้างข้ามตัวแก้เคล็ดแก้อาถรรพณ์ และเสริมดวง แห่นอนให้ช้างแสนรู้ สวนนงนุช พัทยา นวดและข้ามตัว ก่อนถึงวันประกวดรอบตัดสินตรง “วันฮัลโลวีน” 31 ตุลาคม 2551 หรือวันปล่อยจิตวิญญาณชั่วร้ายที่ได้หลุดพ้นจากการกักขัง
ผู้เข้าประกวดมิสทีน ไทยแลนด์ 2008 หลังจากที่ว่างเว้นจากการถ่ายวีทีอาร์ ภายในสวนนงนุช นางพันธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าประกวดได้มีโอกาสเข้าชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค และการแสดงชาติแสนรู้ ในลานแสดงช้าง ปรากฏว่าเมื่อถึงคิวการแสดงช้างนวดแผนโบราณ และช้างเดินข้ามตัวนักท่องเที่ยว ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศได้ร่วมกิจกรรมการแสดงด้วย ได้มีผู้เข้าประกวดแย่งกันวิ่งลงไปนอนให้ช้างนวด และเดินข้ามตัว โดยไม่หวาดกลัวแต่อย่างใด เมื่อช้างเดินข้ามเรียบร้อยแล้วได้แสดงความดีใจอย่างมาก หลายคนอุทานว่าโชคดีเสียที หมดทุกข์ หมดโศก หมดโรค หมดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมการแสดงช้างด้วยการนวดแผนโบราณ และเดินข้ามตัวนักท่องเที่ยวเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทุกคนมีความเชื่อว่าถ้าได้ลอดท้องช้าง หรือให้ช้างเดินข้าม จะทำให้โชคดี ล้างซวย ล้างอาถรรพณ์ คุณไสย มนต์ดำ แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนยังมีความเชื่อในเรื่องนี้ ส่วนสาวงามรอบสุดท้ายในการประกวดมีสทีน ไทยแลนด์ 2008 ก็เช่นกัน มีความเชื่อในเรื่องศาสตร์โบราณ ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีคุณสมบัติพิเศษเปรียบเสมือนเทวดาอาศัยอยู่ในรูปลักษณ์ของช้าง มีพระคุณต่อแผ่นดินในการทำยุทธหัตถีกู้ชาติร่วมกับบรรพชนมาทุกยุคทุกสมัย การที่ได้รอดท้องช้างจะโชคดีแน่นอน
ผู้เข้าประกวดได้กล่าวว่า การประกวดในรอบตัดสิน ณ ชั้น 5 ห้องบางกอกคอนแวนชั่นเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 ตุลาคม 2551 ซึ่งตรงกับเทศกาล Halloween Day (เฮโลวีน เดย์) ซึ่งหมายถึงจิตวิญญาณชั่วร้ายที่ได้หลุดพ้นจากการกักขัง เพราะวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันที่ชาวเซลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมือง เผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่าเป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมาคือ วันที่ 1 พ.ย.ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของพวกเค้า และในวันที่ 31 ต.ค.นี้เอง ที่ชาวเซ็ลท์เชื่อกันว่า เป็นวันที่มิติของคนตาย และคนเป็น จะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาทั้งหมด จะกลับมาเพื่อหาร่างของคนเป็นๆ เพื่อสิงสู่ มันเป็นวันแห่งความหวังเพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากการตายไปแล้วชาวเซลต์เชื่อกันว่ากฎและเวลาทั่วจักรวาลจะมีการหยุดชั่วคราวในช่วงเวลานี้ เพื่อทำให้โลกของจิตวิญญาณได้รวมตัวกันเพื่อเข้าไปครอบงำคนที่มีชีวิตอยู่ ดังนั้น ในคืนวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ในหมู่บ้านจะไม่มีแสงไฟเลย เพราะบ้านแต่ละหลังจะทำการปิดไฟในบ้านทั้งหมดให้มืดสนิท เพื่อให้วิญญาณเหล่านั้นหนาวเย็นจนเข้าสิงร่างใครไม่ได้ พวกชาวบ้านจะมีการแต่งตัวให้แปลกประหลาด หรือแต่งหน้า แต่งตัวเป็นผี และเดินขบวนพาเหรดส่งเสียงดังรอบๆ บ้านของเพื่อนบ้าน เพื่อที่เหล่าวิญญาณจะได้เกิดความกลัวและหนีไปเพราะความตกใจ จึงได้รอดท้องช้างไว้ก่อนจะได้โชคดี
