ศูนย์ข่าวศรีราชา - 2 สาวงาม มิสทีนไทยแลนด์ 2008 ประเดิม 2 รางวัลแรก เบอร์ 35 คว้าเงินรางวัล พร้อมสายสะพายขวัญใจสวนนงนุช เบอร์ 26 คว้าเงินรางวัลโทรศัพท์มือถือ สายสะพายขวัญใจเมืองพัทยา ลุยทำกิจกรรม ถ่ายวีทีอาร์ที่พัทยา และสวนนงนุช เตรียมเข้ารอบตัดเชือก 31 ตุลาคม “วันฮัลโลวีน”
จากการที่ กองประกวดมิสทีน ไทยแลนด์ 2008 ได้จัดให้มีการประกวดสาวงามเพื่อเป็นการประเดิม 2 รางวัลแรก ของการประกวด ที่อาคารนันทา สวนนงนุชพัทยา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้การตัดสิน คือ นายจิรพฤทธิ์ โสดร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด สวนนงนุช พัทยา นายภูวภัทร เสือสืบหนุ่ม ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการแสดง สวนนงนุช พัทยา นายชุติพนธ์ กมลนาถ เลขานุการ นายกเมืองพัทยา นางนิตยา ปฎิมาสงเคราะห์ ประธานสมาคม Y.M.C.A ศูนย์พัทยา นางจินตนา เวชโชติ หัวหน้าฝ่ายการศึกษาเมืองพัทยา และนางสาวภคมณี อินทรมณี ผู้ประกาศข่าวและจัดรายการ โสภณ เคเบิลทีวี พัทยา
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา กองประกวดได้รับเกียรติจากนายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช พัทยา ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนสถานที่ซึ่งใช้ในการประกอบกิจกรรมกล่าวต้อนรับ และให้ส่งเสริม การจัดการประกวดประเดิม 2 รางวัลแรก ก็คือ รางวัลขวัญใจสวนนงนุช และ ขวัญใจเมืองพัทยา ตลอดจนการถ่ายวีทีอาร์ ให้ผู้เข้าประกวด จำนวน 50 คน เพื่อจะได้นำไปเปิดให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานได้ชมในรอบตัดสินกัน ณ ชั้น 5 ห้องบางกอกคอนแวนชัน เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 ตุลาคม 2551 ซึ่งวันนี้ ตรงกับวัน “ฮัลโลวีน” ผลการตัดสินการประกวด นางสาวนัทชา วรจรรยากุล ผู้เข้าประกวดหมายเลข 35 ได้รับรางวัลขวัญใจสวนนงนุช สายสะพาย พร้อมเงินสด 10,000 บาท และนางสาวทิพย์รัตน์ อมาตยกุล เบอร์ 26 ได้รับรางวัล ขวัญใจเมืองพัทยา สายสะพาย เงินสด 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ
นายกัมพล เปิดเผยว่า ได้ทราบวัตถุประสงค์ของกองประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2008 ว่าการนำสาวงามทั้งหมดเข้ามาทำกิจกรรมในสวนนงนุช พัทยา หรือสวรรค์บนดินแห่งนี้เพราะต้องการปลูกจิตสำนึกให้กับผู้เข้าประกวดเป็นแกนนำเยาวชนร่วมโครงการรักษ์และปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน เพราะปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา
สำหรับ สวนนงนุช พัทยา นับพันไร่เป็นพื้นที่สีเขียวเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถเป็นต้นแบบให้กับผู้เข้าประกวดได้นำความร่มเย็น เขียวชอุ่มของพันธุ์ไม้นับหมื่นชนิดไปบอกต่อให้กับเพื่อน ญาติ และคนรู้จัก ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อน เนื่องจากในปัจจุบันปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องรอการเรียนรู้ หรือทำความเข้าใจอีกต่อไปแล้ว ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนจะทำให้ปัญหาจากภัยธรรมชาติลดน้อยลงบ้าง และไม่ใช่เพียงการปลูกต้นไม้แต่เพียงอย่างเดียว ต้องช่วยกันลดพลังงานด้วยการใช้พลังงานทดแทนให้มากที่สุด