อุบลราชธานี - ผู้ค้าตลาดชายแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อุบลราชธานี ปลงตกรับสภาพนโยบายผิดพลาดยุค "ทักษิณ ชินวัตร" ส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ค้ารายย่อย ยอดการค้าตกฮวบฮาบวันละล้านเหลือแค่แสน ร้านค้าทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
บรรยากาศการค้าของร้านจำหน่ายสินค้าบริเวณด่านพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังเงียบเหงามีนักท่องเที่ยวคนไทยและคนลาวเข้ามาซื้อสินค้าบางตา ทำให้บรรยากาศตามร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดและร้านขายเสื้อผ้าที่เคยคึกคักในอดีต ไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า แม้จะเป็นช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ตาม
จากการสอบถามเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและของเด็กเล่นในตลาดช่องเม็กแห่งหนึ่ง กล่าวว่า สภาพการค้าของร้านจำหน่ายสินค้าที่พรมแดนช่องเม็กตกลงอย่างต่อเนื่อง เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีนโยบายให้ปรับระเบียบการค้าชายแดนไทย-ลาวแบบสากลคือ ไม่มีการผ่อนปรนให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เดินทางข้ามแดนระหว่างด่านช่องเม็กไปด่านวังเตาของลาวซื้อสินค้าระหว่างกันในรัศมี 1 ก.ม. โดยเสียค่าธรรมเนียมผ่านแดน หรือค่าเหยียบแผ่นดินเพียง 10 บาท
แต่หลังจากจังหวัดอุบลราชธานีทำข้อตกลงกับทางการลาว โดยผู้ต้องการผ่านแดน ต้องทำเอกสารขอผ่านแดนชั่วคราว (บอเดอร์พาส) โดยคนไทยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 65 บาท ส่วนชาวลาวคนละ 200 บาท จึงส่งผลกระทบกับร้านค้าชายแดนทันที เพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินเท้าเข้าไปซื้อสินค้าหรือดูบรรยากาศการค้าขายชายแดนในเขตประเทศลาวไม่มาเที่ยวอีก
ขณะเดียวกันคนลาวที่ต้องการเดินทางมาซื้อสินค้าที่ชายแดนก็ไม่เดินทางมาเช่นกัน เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จึงเลือกที่จะซื้อสินค้าไทยที่วางจำหน่ายอยู่ในเมืองปากเซแทน ทำให้ตลาดการค้าชายแดนช่องเม็ก-วังเตาอยู่ในสภาพซบเซาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้แผงจำหน่ายสินค้ากว่า 200 แห่งเริ่มทยอยปิดตัวเองลงเป็นระยะ
เจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ กล่าวต่อว่า ร้านของตนค้าขายมาตั้งแต่ปี 2533 ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะจากเคยจำหน่ายได้วันละกว่า 1-2 หมื่นบาท ปัจจุบันขายได้วันละ 1,000 บาทถือว่าสูงมากแล้ว ในทางกลับกันผลประโยชน์กลับไปตกอยู่กับผู้ค้ารายใหญ่ข้ามชาติ ซึ่งยังส่งสินค้าเข้าไปขายในประเทศลาว โดยไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า อดีตการค้าขายที่ตลาดพรมแดนช่องเม็กวันธรรมดามีมูลค่าเฉลี่ยวันละ 1,000,000 บาท วันหยุดมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว แต่ปัจจุบันมีมูลค่าการค้าเพียงวันละประมาณ 50,000-100,000 บาท และปัญหาที่เกิดขึ้น กลุ่มผู้ค้าพยายามร้องเรียนให้หน่วยงานราชการเข้ามาแก้ปัญหา แต่ไม่ได้รับความสนใจ
กระทั่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีและมาตรวจราชการที่ จ.อุบลราชธานี กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดพรมแดนช่องเม็กได้ยื่นหนังสือประท้วง แต่ไม่ได้รับคำตอบชัดเจน จึงร่วมกันโห่ไล่กลายเป็นข่าวดังเมื่อปี 2550
ล่าสุดสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย รับปากจะแก้ข้อตกลงกับทางการลาว เพื่อฟื้นฟูการค้าตลาดพรมแดนช่องเม็ก แต่ยังไม่มีความคืบหน้า