ผู้จัดการรายวัน – ทอยส์อาร์อัสชงคอนเซ็ปท์ใหม่ในไทยตามรอยเอเซีย ชูโมเดลเอ็กซ์เพรส พื้นที่ต่ำ พร้อมกับไม่ขายเกมคอมพิวเตอร์ ประเดิมที่เอสพละนาด ด้วยงบลงทุน 10 ล้านบาท มั่นใจปีนีรายได้โตทะลุ 320 ล้านบาท
นายปีเตอร์ ชาร์ทซ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทอยส์ ลีฟุง (เอเซีย) จำกัด ผู้ดูแลและบริการร้านทอยส์อาร์อัสในเอเซีย 8 ประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของร้านทอยส์อาร์อัสที่ตนเองรับผิดชอบ 8 ประเทศ มีอัตราการเติบโตค่อนข้างมากกว่า 20% โดยเฉพาะในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน รวมทั้งไทยด้วยเป็นต้น
โดยมาจากจำนวนร้านของทอยส์อาร์อัสทั้งหมดกว่า 90 แห่งเมื่อสิ้นปีที่แล้ว และตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีร้านทอยส์อาร์อัสเพิ่มเป็น 100 สาขาในเอเซียนี้ และในอีก 3 ปีจากนี้จะมีเพิ่มเป็น 150 สาขา โดยจะมีทั้งหมด 3 รูปแบบคือ 1.แฟลกชิบสโตร์ ขนาดใหญ่ที่สุดพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร มีสินค้าครบครันมากกว่า 10,000 รายการ สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์ 2.แบบแซทเทิลไลต์ พื้นที่ประมาณ 1,000-2,000 ตารางเมตร สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่เซ็นทรัลบางนา 3.แบบเอ็กซ์เพรส พื้นที่ต่ำกว่า 1,000 ตารางเมตร สินค้ามีเฉพาะ สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่ เอสพละนาดซึ่งเพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับสาขาในรูปแบบเอ็กซ์เพรสนั้น เพิ่งเริ่มเปิดได้ประมาณ 2 ปีที่แล้ว เริ่มที่ประเทศไตัหวันเป็นประเทศแรก ต่อมาก็ขยายรูปแบบนี้ไปที่ฮ่องกง มาเลเซีย จีน และไทย รวมแล้วสาขาแบบเอ็กซ์เพรสมีประมาณ 15 แห่งแล้วในเอเซีย ซึ่งรูปแบบเอ็กซเพรสนี้มีความเหมาะสมเพราะปัจจุบันหาทำเลดีๆขนาดใหญ่ลำบากมากขึ้น อีกทั้งเจ้าของโครงการต่างก็ต้องการพื้นที่ขนาดนี้เพราะถือว่าเหมาะสมแล้ว
“การเติบโตที่ดีขึ้นนั้นเป็นเพราะว่าเราได้พัฒนารูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในแต่ละประเทศรวมทั้งในแต่ละทำเลด้วย รวมทั้งการคัดสรรของเล่นที่มีความเหมาะสม คุณภาพกับราคา รวมทั้งสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้นอกจากทอยส์อาร์อัสเท่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าW
สำหรับธุรกิจในไทยนั้น นายปีเตอร์มองว่า ยังมีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตและขยายธุรกิจอีกมาก โดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัดเมืองท่องเที่ยวอีกมากที่ยังไม่ได้ขยายเข้าไปเลย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ทอยส์อาร์อัสมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าขณะนี้จะมีปัญหาเรื่องการเมืองก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่งอย่างใด
นายมานิตย์ เลิศสาครศิริ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้จะมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นล่าสุดคือที่ เอสพละนาด ซึ่งเป็นสาขาที่ 7 ในไทยแล้ว และอีกประมาณ 2 เดือนจะเปิดสาขาใหม่ที่มาร์เก็ตเพลซที่หัวหิน และที่เซ็นทรัลบีชพัทยา และในอีก 2 ปีจากนี้จะเริ่มขยายไปในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดมากขึ้น รวมทั้งการรีโนเวตสาขาเดิมที่เปิดไปนานแล้ว
ปัจจุบันมีร้านทอยส์อาร์อัสในไทยรวม 7 แห่งคือ ที่ คาร์ฟูร์ (ลาดพร้าว-พระรามสี่), แฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล (บางนา,เฟสติวัลพัทยา) และที่เอสพละนาด โดยมีฐานลูกค้าสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย
สำหรับสาขาที่เอสพละนาดนี้เป็นแบบเอ็กซ์เพรส มีขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ลงทุน 10 ล้านบาท มีสินค้ากว่า 4,000 รายการ เปิดบริการประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี และได้ตกแต่งร้านตามคอนเซปท์รูปแบบใหม่ให้มีความสดใส พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโลโก้ อีกทั้งสาขารูปแบบนี้จะไม่มีสินค้าเกมคอมพิวเตอร์จำหน่ายด้วย
นายมานิตย์กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งการเปิดสาขาตามแผนที่วางไว้ ส่วนรายได้มีประมาณ 150-160 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 300-320 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมของตลาดของเด็กเล่นนำเข้าเมื่อปีที่แล้วตกลงกว่า 50% จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ส่วนภาพรวมครึ่งปีแรกนี้ตลาดรวมโต 15%
นายปีเตอร์ ชาร์ทซ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทอยส์ ลีฟุง (เอเซีย) จำกัด ผู้ดูแลและบริการร้านทอยส์อาร์อัสในเอเซีย 8 ประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของร้านทอยส์อาร์อัสที่ตนเองรับผิดชอบ 8 ประเทศ มีอัตราการเติบโตค่อนข้างมากกว่า 20% โดยเฉพาะในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน รวมทั้งไทยด้วยเป็นต้น
โดยมาจากจำนวนร้านของทอยส์อาร์อัสทั้งหมดกว่า 90 แห่งเมื่อสิ้นปีที่แล้ว และตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีร้านทอยส์อาร์อัสเพิ่มเป็น 100 สาขาในเอเซียนี้ และในอีก 3 ปีจากนี้จะมีเพิ่มเป็น 150 สาขา โดยจะมีทั้งหมด 3 รูปแบบคือ 1.แฟลกชิบสโตร์ ขนาดใหญ่ที่สุดพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร มีสินค้าครบครันมากกว่า 10,000 รายการ สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์ 2.แบบแซทเทิลไลต์ พื้นที่ประมาณ 1,000-2,000 ตารางเมตร สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่เซ็นทรัลบางนา 3.แบบเอ็กซ์เพรส พื้นที่ต่ำกว่า 1,000 ตารางเมตร สินค้ามีเฉพาะ สาขาแบบนี้ในไทยเช่นที่ เอสพละนาดซึ่งเพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับสาขาในรูปแบบเอ็กซ์เพรสนั้น เพิ่งเริ่มเปิดได้ประมาณ 2 ปีที่แล้ว เริ่มที่ประเทศไตัหวันเป็นประเทศแรก ต่อมาก็ขยายรูปแบบนี้ไปที่ฮ่องกง มาเลเซีย จีน และไทย รวมแล้วสาขาแบบเอ็กซ์เพรสมีประมาณ 15 แห่งแล้วในเอเซีย ซึ่งรูปแบบเอ็กซเพรสนี้มีความเหมาะสมเพราะปัจจุบันหาทำเลดีๆขนาดใหญ่ลำบากมากขึ้น อีกทั้งเจ้าของโครงการต่างก็ต้องการพื้นที่ขนาดนี้เพราะถือว่าเหมาะสมแล้ว
“การเติบโตที่ดีขึ้นนั้นเป็นเพราะว่าเราได้พัฒนารูปแบบร้านให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ในแต่ละประเทศรวมทั้งในแต่ละทำเลด้วย รวมทั้งการคัดสรรของเล่นที่มีความเหมาะสม คุณภาพกับราคา รวมทั้งสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้นอกจากทอยส์อาร์อัสเท่านั้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าW
สำหรับธุรกิจในไทยนั้น นายปีเตอร์มองว่า ยังมีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตและขยายธุรกิจอีกมาก โดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัดเมืองท่องเที่ยวอีกมากที่ยังไม่ได้ขยายเข้าไปเลย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น และที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ทอยส์อาร์อัสมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าขณะนี้จะมีปัญหาเรื่องการเมืองก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่งอย่างใด
นายมานิตย์ เลิศสาครศิริ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้จะมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นล่าสุดคือที่ เอสพละนาด ซึ่งเป็นสาขาที่ 7 ในไทยแล้ว และอีกประมาณ 2 เดือนจะเปิดสาขาใหม่ที่มาร์เก็ตเพลซที่หัวหิน และที่เซ็นทรัลบีชพัทยา และในอีก 2 ปีจากนี้จะเริ่มขยายไปในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดมากขึ้น รวมทั้งการรีโนเวตสาขาเดิมที่เปิดไปนานแล้ว
ปัจจุบันมีร้านทอยส์อาร์อัสในไทยรวม 7 แห่งคือ ที่ คาร์ฟูร์ (ลาดพร้าว-พระรามสี่), แฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล (บางนา,เฟสติวัลพัทยา) และที่เอสพละนาด โดยมีฐานลูกค้าสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย
สำหรับสาขาที่เอสพละนาดนี้เป็นแบบเอ็กซ์เพรส มีขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ลงทุน 10 ล้านบาท มีสินค้ากว่า 4,000 รายการ เปิดบริการประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ได้รับการตอบรับที่ดี และได้ตกแต่งร้านตามคอนเซปท์รูปแบบใหม่ให้มีความสดใส พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนโลโก้ อีกทั้งสาขารูปแบบนี้จะไม่มีสินค้าเกมคอมพิวเตอร์จำหน่ายด้วย
นายมานิตย์กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายทั้งการเปิดสาขาตามแผนที่วางไว้ ส่วนรายได้มีประมาณ 150-160 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นเป็น 300-320 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมของตลาดของเด็กเล่นนำเข้าเมื่อปีที่แล้วตกลงกว่า 50% จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ส่วนภาพรวมครึ่งปีแรกนี้ตลาดรวมโต 15%