ชายแดน “เขาวิหาร” ลดตึงเครียด-เขมรแห่ซื้อสินค้า “ช่องสะงำ” คึกคัก

ศรีสะเกษ- ชาวเขมรแห่ซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคที่ตลาดชายแดนด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ คึกคัก หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ลดความตึงเครียด ด้านประธานชมรมการค้าและการท่องเที่ยว ช่องสะงำ เผย การค้าและการท่องเที่ยวชายแดนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนเขาพระวิหารทหาร 2 ฝ่าย ยังตรึงกำลังตามปกติยังไม่มีการปรับลดกำลัง ขณะที่ทหารเขมรได้สร้างบังเกอร์เพิ่มขึ้นอีก

วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ลดความตึงเครียดลงมาก หลังการหารือทวิภาคีนอกรอบระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-กัมพูชา ที่กรุงปักกิ่ง และการประชุมในกรอบคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กับ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ที่จ.เสียมราฐ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นั้น บรรยากาศการค้าขายและการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ได้มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวกัมพูชาพากันเข้ามาหาซื้อสินค้าในฝั่งไทยที่ตลาดชายแดนช่องสะงำกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางทหารพรานไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ และ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ภูสิงห์ รักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่

นายขานติพงษ์ วงศ์รุจิโรจน์ อายุ 34 ปี พ่อค้าชาวไทย ในตลาดชายแดนช่องสะงำ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดตลาดนัดการค้าระหว่างพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและกัมพูชา เพราะก่อนหน้านี้ หลังจากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ชายแดนเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2551 ที่ผ่านมา ไม่มีชาวกัมพูชาเข้ามาซื้อสินค้าในฝั่งไทยทำให้การค้าขายซบเซาอย่างหนัก

แต่วันนี้การค้าขายกลับมาคึกคักตามปกติและพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยได้พากันนำสินค้ามาขายจำนวนมาก คาดว่ามูลค่าการซื้อขายโดยรวมในวันนี้คงไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ชาวกัมพูชาต้องการมาก คือ เครื่องอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ

นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมการค้าและการท่องเที่ยวช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์โดยทั่วไปที่ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้าม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติเช่นกัน ชาวกัมพูชาที่อพยพออกไปจากเขต อ.อัลลองเวง กลับเข้ามาอยู่บ้านเรือนของตัวเองแล้ว เนื่องจากมั่นใจว่า จะไม่มีการสู้รบกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยขึ้นอีก ทำให้บรรยากาศการค้าและการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยและกัมพูชา ยังคงมีการตรึงกำลังทหารเช่นเดิม โดยยังไม่ได้มีการปรับกำลังทหารของทั้ง 2 ชาติแต่อย่างใด แต่บรรยากาศการไม่ได้ตึงเครียดเหมือนช่วงที่ผ่านมา ทหารทั้ง 2 ฝ่ายพบปะพูดคุยกันตามปกติ ขณะที่ทหารกัมพูชาได้สร้างบังเกอร์เพิ่มขึ้นอีกในบริเวณที่มีการตรึงกำลังทหารบนเขาพระวิหารด้วย