ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา ชู เชียงใหม่ได้รับรางวัลอันดับ 2 สุดยอดเมืองท่องเที่ยวในเอเชีย ชี้ เป็นโอกาสดีเปิดตัวลุยตลาดต่างชาติ ขณะเดียวกัน ยืนยันยังไม่มีความคิดลดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้แม้หลายปัจจัยรุมเร้า เชื่อ ทิศทางยังไปได้ดีหากไม่มีการปิดสนามบินและประกาศภาวะฉุกเฉิน
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารนิทรรศการ สวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2549 จังหวัดเชียงใหม่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวอย่างไม่เป็นทางการกรณีที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับรางวัลอันดับที่ 2 ประเภทเมืองท่องเที่ยวในเอเชีย (Best City of Asia) จากนิตยสารท่องเที่ยวยอดนิยม Conde Nast Traveler ของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการสุ่มสำรวจความเห็นจากผู้อ่าน 32,000 คน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การได้รับรางวัลดังกล่าว ถือว่าเป็นความน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเป็นการแสดงให้เห็นถึงผลการทำงานอย่างหนักของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ในการช่วยดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมามากขึ้น และน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ใช้รางวัลที่ได้รับในการประชาสัมพันธ์ทำการตลาดในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยปัจจุบันพบว่านักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ นอกจากประเทศเดิมๆ อย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป เริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น เช่น เกาหลี รัสเซีย สเปน หรือเนเธอแลนด์ เป็นต้น เห็นได้จากอัตราจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี
สำหรับปัญหาวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นกับสหรัฐอเมริกา ที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวหลักของจังหวัดเชียงใหม่จะส่งผลกระทบหรือนั้น นายวีระศักดิ์ แสดงความเห็นว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวยังเชื่อว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวเหมือนเดิม แต่จะมีการเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น หากต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเหมือนเดิมก็มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเชียงใหม่ให้มีความประทับใจและรู้สึกคุ้มค่ากับการที่จะจ่ายเงินมาท่องเที่ยว ซึ่งหากสามารถทำได้เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนการที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าสถานการณ์ต่างๆ จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและต้องปรับลดยอดเป้าหมายต่างๆ ลง ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้นั้น ยืนยันว่า ในเวลานี้จะยังไม่มีการปรับลดเป้าหมายต่างๆ ลงอย่างแน่นอน แต่จะต้องหันมาวางแผนและทำงานอย่างหนักมากขึ้นในการที่จะคิดหาวิธีดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น โดยจะต้องพยายามรักษาตลาดเดิมไว้ให้ด้วยการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น กลุ่มประชุมสัมมนา ท่องเที่ยวผจญภัยหรือรักษาสุขภาพความงาม เป็นต้น และพยายามแสวงหาตลาดใหม่ๆ ซึ่งเบื้องต้นมีการเล็งตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศที่มีรัศมีการบินจากประเทศไทยไม่เกิน 6 ชั่วโมง เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย หรืออินโดนีเซีย เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ไม่น่าจะเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เพราะประเทศส่วนใหญ่มีความเข้าใจดีว่าความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย แต่สิ่งนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เป็นห่วงมาก คือ การปิดสนามบินและการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งหากไม่มีกรณีดังกล่าวเชื่อว่าไม่น่าจะมีอุปสรรค