ศรีสะเกษ- เขมรระดมกำลังทหารกว่า 200 นายเข้าเสริมทัพที่เขาพระวิหารอีก พร้อมส่งรถถังจ่อชายแดนไทยเพียง 1 กม. ขณะที่ทหารไทยตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนตั้งปืนใหญ่เตรียมพร้อมถล่มโต้เช่นกัน ส่วนชาวบ้านจัดเวรยามเข้มทุกหมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่โรงเรียนชายแดนทุกแห่งประชุมเตรียมแผนรองรับอพยพเต็มที่ เผยนายกฯสมชาย “น้องเขยแม้ว” มีกำหนดควงแขน“ศรีเมือง”รมว.ศึกษา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมทหารและโรงเรียนชายแดน จ.ศรีสะเกษ แต่ไม่กำหนดชัดขึ้นไปบนอทุยานฯ เขาพระวิหารหรือไม่
วานนี้ ( 17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น.ที่บริเวณถนนสายอัลลองเวง - เขาพระวิหาร อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรไทย –กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.) ได้มีรถบรรทุกทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือประมาณ 15 คัน รวมประมาณ 200 นาย ได้มุ่งหน้าไปยังเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
โดยทหารกัมพูชาในจำนวนนั้นประมาณ 70 นาย มีเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจีเป็นอาวุธประจำกาย ซึ่งคาดว่าทหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยอาร์พีจี ที่กระจายตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ อยู่ในขณะนี้
ขณะนี้ทหารไทย ยังคงตรึงกำลังรอบบริเวณเขาพระวิหารและตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่เช่นกัน
นอกจากนี้ ผลจากการเกิดเหตุปะทะกันระหว่างไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาและสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ ทำให้บรรดานักธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่ไปค้าขายอยู่ที่จ.เสียมราฐ และ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ได้พากันทะยอยเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย- กัมพูชาช่องสะงำกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของบ้านโศกขามป้อม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขตแดนไทยออกไป 1 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวนี้เรียกว่า “บ้านซำแต” เป็นหมู่บ้านของชาวกัมพูชาอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนและในอดีตเป็นสถานที่ตั้งกองกำลังเขมรแดง ในยุค นายพลตา ม็อก เรืองอำนาจ และได้มาสร้างสถานที่เก็บคลังแสงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับทหารรัฐบาลกัมพูชาในสมัยนั้น ขณะนี้ได้มีกองกำลังทหารกัมพูชาจำนวนมากพร้อมครอบครัวพากันมาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ รวมทั้งได้นำรถถัง 2 คันมาประจำการอยู่ด้วย โดยรถถังอยู่ในสภาพหันปากกระบอกปืนเข้ามายังเขตบ้านโศกขามป้อม ฝั่งไทย และมีการเตรียมพร้อมเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ทหารไทยประมาณ 1 กองร้อย พร้อมด้วยรถถังจำนวน 3 คัน ได้มาตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณนี้ และตั้งด่านสกัดกั้นห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปในเขตชายแดนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ซึ่งพื้นที่จุดนี้ทหารกัมพูชามักจะสร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านและทหารไทยอยู่เป็นประจำ
ขณะเดียวกันตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีทหารไทยนำเอาปืนใหญ่ไปตั้งไว้และหันปากกระบอกปืนตรงไปยังบ้านโกมุย ฝั่งประเทศกัมพูชา ทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทหารกัมพูชาที่มีกำลังทหารกัมพูชาอยู่เป็นจำนวนมากและเตรียมพร้อมขึ้นไปเสริมกำลัง บนเขาพระวิหารได้ตลอดเวลา
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ได้จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยของชาวบ้านอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งได้แจกจ่ายอาวุธปืนลูกซองให้ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านละ 15 กระบอก
ส่วนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายประวิทย์ หลักบุญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 15 โรงเรียน เพื่อซักซ้อมแผนในการเตรียมการอพยพครู นักเรียน และใช้เป็นสถานที่รองรับประชาชนที่จะอพยพมาอยู่ในโรงเรียนที่ได้จัดเตรียมไว้
นายประวิทย์ หลักบุญ กล่าวว่า ได้จัดเตรียมโรงเรียนสำหรับเป็นจุดรองรับผู้อพยพหากเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาไว้ 3 จุด คือที่โรงเรียนบ้านเกษตรประชาตาทวด ,โรงเรียนบ้านจันทร์หอมตาเสก และโรงเรียนบ้านตาแท่น พร้อมได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่จะอพยพมาอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้คณะครู นักเรียนทุกโรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชาในสังกัด สพท.
ศรีสะเกษ เขต 4 ยังคงมีกำลังใจดี และมีความพร้อมจะอพยพหนีภัยสงครามได้ตลอดเวลา อีกทั้งได้กำชับให้ทุกโรงเรียนจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของทางราชการอย่างเต็มที่แล้วและขอให้ความร่วมมือกับทางฝ่ายทหารและตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่แนวหน้าด้วย” นายประวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า วันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีกำหนดจะเดินทางมาตรวจเยี่ยมส้รางขวัญใจแก่ทหารไทยและเยี่ยมโรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการต้อนรับอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีกำหนดการชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีจะขึ้นไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ด้วยหรือไม่
วานนี้ ( 17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น.ที่บริเวณถนนสายอัลลองเวง - เขาพระวิหาร อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรไทย –กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.) ได้มีรถบรรทุกทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือประมาณ 15 คัน รวมประมาณ 200 นาย ได้มุ่งหน้าไปยังเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
โดยทหารกัมพูชาในจำนวนนั้นประมาณ 70 นาย มีเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจีเป็นอาวุธประจำกาย ซึ่งคาดว่าทหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยอาร์พีจี ที่กระจายตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ อยู่ในขณะนี้
ขณะนี้ทหารไทย ยังคงตรึงกำลังรอบบริเวณเขาพระวิหารและตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ อย่างเต็มที่เช่นกัน
นอกจากนี้ ผลจากการเกิดเหตุปะทะกันระหว่างไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาและสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดอยู่ในขณะนี้ ทำให้บรรดานักธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่ไปค้าขายอยู่ที่จ.เสียมราฐ และ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ได้พากันทะยอยเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย- กัมพูชาช่องสะงำกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ส่วนที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของบ้านโศกขามป้อม ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขตแดนไทยออกไป 1 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวนี้เรียกว่า “บ้านซำแต” เป็นหมู่บ้านของชาวกัมพูชาอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนและในอดีตเป็นสถานที่ตั้งกองกำลังเขมรแดง ในยุค นายพลตา ม็อก เรืองอำนาจ และได้มาสร้างสถานที่เก็บคลังแสงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับทหารรัฐบาลกัมพูชาในสมัยนั้น ขณะนี้ได้มีกองกำลังทหารกัมพูชาจำนวนมากพร้อมครอบครัวพากันมาตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ รวมทั้งได้นำรถถัง 2 คันมาประจำการอยู่ด้วย โดยรถถังอยู่ในสภาพหันปากกระบอกปืนเข้ามายังเขตบ้านโศกขามป้อม ฝั่งไทย และมีการเตรียมพร้อมเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ทหารไทยประมาณ 1 กองร้อย พร้อมด้วยรถถังจำนวน 3 คัน ได้มาตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณนี้ และตั้งด่านสกัดกั้นห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปในเขตชายแดนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ซึ่งพื้นที่จุดนี้ทหารกัมพูชามักจะสร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านและทหารไทยอยู่เป็นประจำ
ขณะเดียวกันตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีทหารไทยนำเอาปืนใหญ่ไปตั้งไว้และหันปากกระบอกปืนตรงไปยังบ้านโกมุย ฝั่งประเทศกัมพูชา ทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทหารกัมพูชาที่มีกำลังทหารกัมพูชาอยู่เป็นจำนวนมากและเตรียมพร้อมขึ้นไปเสริมกำลัง บนเขาพระวิหารได้ตลอดเวลา
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ได้จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยของชาวบ้านอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งได้แจกจ่ายอาวุธปืนลูกซองให้ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านละ 15 กระบอก
ส่วนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายประวิทย์ หลักบุญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งที่อยู่ในเขตเสี่ยงภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 15 โรงเรียน เพื่อซักซ้อมแผนในการเตรียมการอพยพครู นักเรียน และใช้เป็นสถานที่รองรับประชาชนที่จะอพยพมาอยู่ในโรงเรียนที่ได้จัดเตรียมไว้
นายประวิทย์ หลักบุญ กล่าวว่า ได้จัดเตรียมโรงเรียนสำหรับเป็นจุดรองรับผู้อพยพหากเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาไว้ 3 จุด คือที่โรงเรียนบ้านเกษตรประชาตาทวด ,โรงเรียนบ้านจันทร์หอมตาเสก และโรงเรียนบ้านตาแท่น พร้อมได้ประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมในด้านการอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่จะอพยพมาอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้คณะครู นักเรียนทุกโรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชาในสังกัด สพท.
ศรีสะเกษ เขต 4 ยังคงมีกำลังใจดี และมีความพร้อมจะอพยพหนีภัยสงครามได้ตลอดเวลา อีกทั้งได้กำชับให้ทุกโรงเรียนจัดเวรยามรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของทางราชการอย่างเต็มที่แล้วและขอให้ความร่วมมือกับทางฝ่ายทหารและตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่แนวหน้าด้วย” นายประวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า วันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีกำหนดจะเดินทางมาตรวจเยี่ยมส้รางขวัญใจแก่ทหารไทยและเยี่ยมโรงเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการต้อนรับอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีกำหนดการชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีจะขึ้นไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ด้วยหรือไม่