สุรินทร์ - ทหารไทย-กัมพูชา ยังตรึงกำลังคุมเข้มชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ด้าน ผบ.กกล.สุรนารีสั่งเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดน “ปรkสาทตาเมือนธม” อ.พนมดงรัก หลังข่าวการทหารระบุมีกองกำลังพร้อมอาวุธหนักปืนจรวดติดรถยนต์เอ็ม 21 และเอ็ม 44 เคลื่อนจากจังหวัดชายแดนเขมรด้านเวียดนามเข้าสมทบทหารกัมพูชา ตั้งฐานปฏิบัติการห่างชายแดนไทยแค่ 5 กม.แต่สถานการณ์โดยรวมล่าสุดยังปกติ
วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ทั้งพื้นที่พิพาทด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก และพื้นที่ปราสาทตาควาย บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นั้นกำลังทหารพราน กองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 และ ทหารพรานกองร้อยที่ 2606 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ยังคงตรึงกำลังและเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนดังกล่าวมากขึ้น ตามคำสั่ง พล.ต.กนก เนตระคะเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี)
ทั้งนี้ สืบเนื่องมีข่าวทางการทหารระบุว่า ล่าสุดได้มีกองกำลัง คล้ายทหารเวียดนามประมาณ 200 นาย พร้อมอาวุธหนัก ปืนจรวดติดรถยนต์ แบบเอ็ม 21 และเอ็ม 44 เคลื่อนกำลังจากจังหวัดกัมปงชนัง กัมพูชา ติดชายแดนประเทศเวียดนาม มุ่งหน้าสู่ชายแดนไทยตามเส้นทางที่กัมพูชาเพิ่งสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้สำหรับทางการทหารเป็นการเฉพาะเข้ามาสมทบกับกองกำลังทหารกัมพูชา ที่บริเวณบ้านกรูด อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ที่ได้เคลื่อนกำลังมาปักหลักอยู่ก่อนหน้าแล้วในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 500 นาย ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยกองกำลังทหารชุดนี้ถูกส่งเข้าเสริมในพื้นที่ชายแดน เพื่อสับเปลี่ยนกำลังกับทหารประจำชายแดนซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารเขมรแดงและมีความคุ้นเคยกับทหารไทยได้ถอยออกไปและมีเป้าหมายเพื่อตั้งฐานปฏิบัติการให้ใกล้กับตัวปราสาทตาเมือนธมให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมนั้น ได้มีการเจรจาตกลงร่วมกันของทหารไทยและทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะไม่มีการให้ทหารติดอาวุธเข้ามายังบริเวณปราสาทตาเมือนธม หากฝ่ายใดเข้ามายังบริเวณปราสาทจะต้องแต่งกายพลเรือน ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทหารพรานกองร้อยจู่โจมที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ได้ผลัดเปลี่ยนกำลังกันเข้าเวรเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและล่าสุดจนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังเป็นปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับทางด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กำลังทหารพรานกองร้อย 2606 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ก็ได้มีการตรึงกำลังเฝ้าระวังพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาแห่งนี้ อย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนฝ่ายทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักประมาณ 300 นาย ที่ถูกส่งเข้ามายังบ้านทมอโดน อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาห่างจากปราสาทตาควายราว 8 กม. ยังคงตรึงกำลังส่วนหน้าตามแนวชายแดนปราสาทตาควายอยู่เช่นเดิม และสถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ (15 ต.ค.) ยังเป็นปกติ
ส่วนที่ตลาดชายแดนช่องจอม บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ (15 ต.ค.) บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ยังกังวลกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางชายแดนเกรงว่าจะเกิดการสู้รบกันขึ้น โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชายังคงเตรียมพร้อมในการขนสินค้ากลับประเทศหากมีเหตุการณ์สู้รบเกิดขึ้น
ขณะที่ตลาดชายแดนโอร์เสม็ด ฝั่งประเทศกัมพูชาตรงข้ามด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม บรรยายกาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาส่วนใหญ่พากันขนสินค้ากลับเข้าไปในพื้นที่ชั้นในเขต จ.อุดรมีชัย กัมพูชา แล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (14 ต.ค.)
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ ยังคงเปิดด่านผ่านแดนถาวร ไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยวเข้า-ออกตามปกติ เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้ แจ้งเตือนประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้เพิ่มระมัดระวังให้มากขึ้นในช่วงนี้
วันนี้ (15 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ทั้งพื้นที่พิพาทด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก และพื้นที่ปราสาทตาควาย บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นั้นกำลังทหารพราน กองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 และ ทหารพรานกองร้อยที่ 2606 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ยังคงตรึงกำลังและเพิ่มความเข้มงวดเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนดังกล่าวมากขึ้น ตามคำสั่ง พล.ต.กนก เนตระคะเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี)
ทั้งนี้ สืบเนื่องมีข่าวทางการทหารระบุว่า ล่าสุดได้มีกองกำลัง คล้ายทหารเวียดนามประมาณ 200 นาย พร้อมอาวุธหนัก ปืนจรวดติดรถยนต์ แบบเอ็ม 21 และเอ็ม 44 เคลื่อนกำลังจากจังหวัดกัมปงชนัง กัมพูชา ติดชายแดนประเทศเวียดนาม มุ่งหน้าสู่ชายแดนไทยตามเส้นทางที่กัมพูชาเพิ่งสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้สำหรับทางการทหารเป็นการเฉพาะเข้ามาสมทบกับกองกำลังทหารกัมพูชา ที่บริเวณบ้านกรูด อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ที่ได้เคลื่อนกำลังมาปักหลักอยู่ก่อนหน้าแล้วในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 500 นาย ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทยประมาณ 5 กิโลเมตร
โดยกองกำลังทหารชุดนี้ถูกส่งเข้าเสริมในพื้นที่ชายแดน เพื่อสับเปลี่ยนกำลังกับทหารประจำชายแดนซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารเขมรแดงและมีความคุ้นเคยกับทหารไทยได้ถอยออกไปและมีเป้าหมายเพื่อตั้งฐานปฏิบัติการให้ใกล้กับตัวปราสาทตาเมือนธมให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมนั้น ได้มีการเจรจาตกลงร่วมกันของทหารไทยและทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาว่าจะไม่มีการให้ทหารติดอาวุธเข้ามายังบริเวณปราสาทตาเมือนธม หากฝ่ายใดเข้ามายังบริเวณปราสาทจะต้องแต่งกายพลเรือน ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทหารพรานกองร้อยจู่โจมที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ได้ผลัดเปลี่ยนกำลังกันเข้าเวรเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและล่าสุดจนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังเป็นปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับทางด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ กำลังทหารพรานกองร้อย 2606 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ก็ได้มีการตรึงกำลังเฝ้าระวังพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาแห่งนี้ อย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนฝ่ายทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักประมาณ 300 นาย ที่ถูกส่งเข้ามายังบ้านทมอโดน อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาห่างจากปราสาทตาควายราว 8 กม. ยังคงตรึงกำลังส่วนหน้าตามแนวชายแดนปราสาทตาควายอยู่เช่นเดิม และสถานการณ์ล่าสุดในวันนี้ (15 ต.ค.) ยังเป็นปกติ
ส่วนที่ตลาดชายแดนช่องจอม บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ วันนี้ (15 ต.ค.) บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ยังกังวลกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางชายแดนเกรงว่าจะเกิดการสู้รบกันขึ้น โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชายังคงเตรียมพร้อมในการขนสินค้ากลับประเทศหากมีเหตุการณ์สู้รบเกิดขึ้น
ขณะที่ตลาดชายแดนโอร์เสม็ด ฝั่งประเทศกัมพูชาตรงข้ามด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม บรรยายกาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาส่วนใหญ่พากันขนสินค้ากลับเข้าไปในพื้นที่ชั้นในเขต จ.อุดรมีชัย กัมพูชา แล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (14 ต.ค.)
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ ยังคงเปิดด่านผ่านแดนถาวร ไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยวเข้า-ออกตามปกติ เพียงแต่เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้ แจ้งเตือนประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้เพิ่มระมัดระวังให้มากขึ้นในช่วงนี้