หนองคาย - นักท่องเที่ยวชมบั้งไฟพญานาคหนองคาย ไม่ผิดหวัง ปีนี้มีบั้งไฟพญานาคผุดขึ้น 6 อำเภอ นับรวมได้ถึง 227 ลูก
บรรยากาศการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ริมฝั่งแม่น้ำโขงในหลายอำเภอของจังหวัดหนองคาย นักท่องเที่ยวนับแสนคนที่รอคอยชมความมหัศจรรย์ของบั้งไฟพญานาค ต่างไม่ผิดหวังเมื่อมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นกลางแม่น้ำโขงลูกแรกในเวลา 18.28 น.ของค่ำคืนที่ผ่านมา ที่บ้านท่าม่วงตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย
หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็เกิดบั้งไฟพญานาคในหลาย ๆ หมู่บ้าน โดยบั้งไฟพญานาคปีนี้มีลักษณะการเกิดเป็นชุดๆ ละประมาณ 3-5 ลูก ในเวลาไล่เลี่ยกัน
สถิติที่รวบรวมโดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่รายการเหตุการณ์บั้งไฟพญานาคของจังหวัดหนองคาย จนถึงเวลา 22.00 น. มีบั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นมากที่ อ.รัตนวาปี ที่บ้านท่าม่วงตาลชุม 23 ลูก, บ้านน้ำเป 14 ลูก, บ้านหนองแก้ว 16 ลูก และยังมีบั้งไฟพญานาคขึ้นกลางหนองน้ำสาธารณะหน้าที่ว่าการอำเภอรัตนวาปีด้วย 19 ลูก รวมบั้งไฟพญานาคที่เกิดในพื้นที่ อ.รัตนวาปี 72 ลูก
ส่วนที่ อำเภอโพนพิสัย ที่หน้าวัดไทย 26 ลูกและหน้าวัดจอมนาง 36 ลูก รวม 62 ลูก, วัดอุทุมพรบ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย 48 ลูก, หน้าวัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ 10 ลูก, อ.สังคม ที่บ้านผาตั้ง 15 ลูก, อ่างปลาบึก 13 ลูก รวม 28 ลูก และบ้านอาฮง อ.บึงกาฬ 7 ลูก ยอดรวมอย่างไม่เป็นทางการ 227 ลูก
ทั้งนี้ คาดว่าในวันนี้ (15 ต.ค.) ยังจะมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นให้เห็นกันอีก เช่นเดียวกับปี 2550 มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 2 วัน รวม 253 ลูก เนื่องจากวันออกพรรษาไทยและลาวตรงกันตามความเชื่อของคนโบราณมักจะเกิดบั้งไฟพญานาคมากและเห็น 2 วันติดต่อกัน
ประกอบกับปีนี้สภาพทางนิเวศวิทยาในแม่น้ำโขงเกิดน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดหนองคาย ทำให้มีอินทรีย์สารที่เป็นปัจจัยหลักในการเกิดบั้งไฟพญานาคมาก ทำให้มีบั้งไฟพญานาคมากขึ้นด้วย
นักท่องเที่ยวที่ได้ชมบั้งไฟพญานาคต่างพากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นยินดีที่ได้เห็นบั้งไฟพญานาค และเมื่อชมบั้งไฟพญานาคจนพอใจแล้วก็ทยอยเดินทางกลับ ทำให้การจราจรตั้งแต่เส้นทาง อ.รัตนวาปี ถึงอำเภอเมืองหนองคาย การจราจรหนาแน่น รถติดเป็นระยะๆ เนื่องจากถนนเป็นถนน 4 เลน และ 6 เลน สลับเป็นช่วงๆ
ส่วนปัญหาหลักที่เกิดขึ้นนอกจากการจราจรแล้วเป็นการเล่นประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ ทำให้รบกวนและเสียบรรยากาศในการชมบั้งไฟพญานาค เกิดเสียงบ่นจากนักท่องเที่ยวพร้อมขอให้ทางจังหวัดหามาตรการแก้ไขในอนาคต
