นักท่องเที่ยวยังปักหลักลุ้นบั้งไฟพญานาคต่อคืนนี้

หนองคาย - นักท่องเที่ยวยังคงปักหลักรอลุ้นชมบั้งไฟพญานาคริมฝั่งโขงหนองคายเป็นวันที่สอง ขณะที่วันแรกพบบั้งไฟพญานาคถึง 830 ลูก

บรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ที่จังหวัดหนองคายในวันที่ 15 ต.ค.2551 ยังคงมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งประมาณพันคน ปักหลักรอลุ้นบั้งไฟพญานาคเป็นวันที่สอง หลังจากที่เมื่อคืนที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ชื่นชมกับปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคอย่างจุใจไปแล้ว และมีความเชื่อว่าปีนี้ออกพรรษาไทยกับลาวตรงกัน จะมีบั้งไฟพญานาคให้เห็น 2 วัน ในวันออกพรรษาและหลังวันออกพรรษา 1 วัน โดยที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าวัดไทย อ.โพนพิสัย มีนักท่องเที่ยวรอชมบั้งไฟพญานาคเช่นเดียวกับอีกหลายพื้นที่

สถิติที่รวบรวมโดยสำนักงานป้องกันจังหวัดหนองคาย ในคืนวันที่ 14 ต.ค.2551 ซึ่งจัดเจ้าหน้าที่ อส.นั่งเฝ้าประจำจุดแต่ละจุดที่เคยเกิดบั้งไฟพญานาคเป็นประจำ และพื้นที่อื่น พบว่า ปีนี้มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นมากถึง 830 ลูก มากกว่าปีที่ผ่านมาที่พบเพียง 253 ลูก โดยพื้นที่ที่พบบั้งไฟพญานาคมากที่สุดในปีนี้ ที่ อ.บึงโขงหลง 238 ลูก, อ.ปากคาด 201 ลูก, อ.รัตนวาปี 143 ลูก, อ.โพนพิสัย 173 ลูก, อ.สังคม 15 ลูก, อ.ศรีเชียงใหม่ 12 ลูก, อ.ท่าบ่อ 1 ลูก, อ.เมืองหนองคาย 16 ลูก และ อ.บึงกาฬ 31 ลูก นักท่องเที่ยว 368,300 คน เงินสะพัดกว่า 311 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบรอยประหลาด เชื่อเป็นรอยพญานาคบนรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเขียว ทะเบียน ก 3505 หนองคาย ซึ่งเป็นรถของ นายสัญญา แสงสุวรรณ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่แผนกห้องยาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย โดยเป็นรอยคดเคี้ยวไปมาขนาดกว้างประมาณ 3 นิ้ว ลักษณะคล้ายเกล็ดงูที่เลื้อยไป-มาที่ปรากฏอยู่บนฝากระโปรงท้ายรถซึ่งจอดอยู่ที่จอดอยู่ที่โรงรถในโรงพยาบาล

โดย นายสัญญา กล่าวว่า และเมื่อคืนนี้ตนได้ขับรถคันนี้พาครอบครัวไปบั้งไฟพญานาคที่อำเภอโพนพิสัย ก่อนกลับตนได้สำรวจรถรอบคันก็ไม่พบรอยดังกล่าว จึงเดินทางกลับ ขณะขับรถออกจากตัวเมืองตนยังเห็นบั้งไฟพญานาคอีก 1 ลูก และเดินทางกลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัย ตนเชื่อว่า เป็นรอยพญานาคที่มาแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็น ถือเป็นความโชคดีของตนเอง