ศูนย์ข่าวศรีราชา- เมืองพัทยาเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมแก้ปัญหาไกด์ผีในพื้นที่ที่มีมากขึ้น จนกินตลาดยุโรปและสแกนดิเนเวีย สุดท้ายไม่ได้ข้อสรุป เลื่อนการประชุมออกไปอีก แฉไกด์เถื่อนเกิดใหม่ในเขตเมืองพัทยาเกินกว่า 50% ของไกด์ถูกกฎหมาย แต่ยังไม่มีการจัดการเป็นรูปธรรมเสียที ทั้งที่ประชุมหารือการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง
“ผู้จัดการออนไลน์” รายงานว่า กรมการจัดหางาน จ.ชลบุรี มีข้อมูลกรณีการร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวประเภทธุรกิจทัวร์ ว่า ปัจจุบันมีกลุ่มไกด์เถื่อน หรือไกด์ผี ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มไกด์เถื่อนตลาดรัสเซีย ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ในอดีตจะมีเพียงไกด์ผีตลาดเอเชีย ได้แก่ ตลาดจีน และเกาหลี อย่างไรก็ตาม จากการเพิ่มขึ้นของไกด์ผีตลาดรัสเซีย ส่งผลให้เกิดผลการขยายวงกว้างของกลุ่มดังกล่าวมีมากขึ้นทั้งไกด์ผีตลาดฝรั่งเศส เยอรมัน รวมถึงประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งปัจจุบันควบคุมได้ยากมาก เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมความคิด เพื่อหาแนวทางป้องกันเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ทว่าการแก้ไขยังไม่มีผลเป็นรูปธรรมชัดเจน จนล่าสุดเมืองพัทยาได้นำปัญหาดังกล่าวมาปัดฝุ่นดำเนินการหาแนวทางใหม่
ตัวแทนผู้ประกอบการรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า จากการพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีความเข้มข้นในการดำเนินการกวาดล้าง ส่งผลให้กลุ่มไกด์เถื่อนขยายวงกว้างมากขึ้น และหากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ปัญหาดังกล่าว จะเข้าขั้นวิกฤต และยากต่อการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ในปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่เข้ามาเป็นไกด์ผีในประเทศไทยมากขึ้นกว่า 50 % ของจำนวนไกด์ที่ดำเนินการประกอบการด้านการท่องเที่ยวอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งมีการดำเนินการกันเป็นขบวนการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายไทย
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 3 (ชลบุรี) กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา ปัญหาไกด์เถื่อนมีมานานหลายรัฐบาล และในอดีตปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญก็เป็นปัญหาหนึ่ง ที่ภาครัฐบาลพยายามให้ความสนใจ แต่รูปแบบมีการเปลี่ยนแปลงจนไกด์ผีดังกล่าว ซึ่งไม่มีความเข้าใจในประวัติศาสตร์บ้านเมืองไทยอย่างแท้จริงเข้ามาดำเนินการอย่างซับซ้อนอีกครั้ง
ปัญหาเรื่องนี้ จึงส่งผลกระทบขึ้นกับผู้ประกอบการที่ขออนุญาตถูกกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมากกว่าเก่า จึงควรหาวิธีการที่ละมุนละม่อม เพราะอาจส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวในอีกปัญหาหนึ่งได้คือด้านความรู้สึก หากจะดำเนินการแบบเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม การประชุมพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ โดยในที่ประชุมมองว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และละเอียดอ่อนเกินกว่าจะหาข้อสรุปได้ในการประชุมครั้งเดียว จึงได้นัดหมายประชุมถกแนวทางการแก้ปัญหาอีกครั้ง โดยจะได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมวางแผน และหาข้อสรุปถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ห้องประชุมด่านตรวจคนเข้าเมืองพัทยาในเวลาอันใกล้นี้
