ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ปตท.รุกตลาด ขยายจุดบริการเอ็นจีวี อุดช่องวางตลาดรองรับความต้องการลูกค้าควบคู่งานพัฒนาด้านสังคม ปลูกฝังเยาวชนรักธรรมชาติผ่านเวทีประกวดภาพวาดภายใต้คอนเซ็ปต์หยุดโลกร้อน
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเวลาอีก 2 ปี นับจากนี้บริษัท ปตท.จะเดินหน้าขยายจุดให้บริการเอ็นจีวี Natural gas vehicle) ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติแบบบีบอัด (compressed natural gas - CNG) สำหรับใช้เป็นพลังงานสะอาดทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติใช้กับพาหนะได้ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถตู้ รถประจำทาง
โดยก๊าชเอ็นจีวี มีราคาขายที่ถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และช่วงที่น้ำมันปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องน้น มีผู้ใช้รถยนต์หันนิยมใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นสูงมาก จนไม่เพียงพอต่อความต้องการประชาชน
สำหรับช่องทางขยายจุดบริการนั้น บริษัท ปตท.จะวางท่อก๊าซเอ็นจีวีไปยังสถานีบริการแม่แต่ละพื้นที่ก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปยังปั๊มเล็กๆ ต่อไป โดยคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มดำเนินการได้ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตในการก่อสร้างวางแนวท่อก๊าซ ทั้งนี้ สถานบริการของก๊าซเอ็นจีวีของปั๊ม ปตท.ในปัจจุบันมีเพียง 700 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งจากแผนงานดังกล่าว ถ้าหากขยายได้ตามเป้า บริษัท ปตท.เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มรายได้จากพลังงานทดแทนเป็น 15-20 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม นอกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะสามารถลดปริมาณการรอคิวการเติมก๊าซของลูกค้าลงกว่าครึ่ง จากปัจจุบันเวลาการรอต่อคันต่อคิวของลูกค้ามีประมาณ 10 นาที
นอกจากแผนขยายสถานบริการเอ็นจีวี บริษัท ปตท.ยังมีกิจกรรมเพื่อพัฒนาด้านสังคม โดยล่าสุดได้ร่วมกับ หอศิลปวัฒนธรรม และศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีมอบรางวัลการประกวดศิลปกรรม ปตท.เยาวชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 3 ขึ้น ภายหลังจากมีการเปิดให้นักเรียนได้มีการประกวดภาพวาดตามจินตนาการ
โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 700 คน รวมผลงาน 197 ชิ้นจะถูกนำมาแสดงนิทรรศการ “หยุด...โลกร้อน เพื่ออนาคต” ร่วมกับผลงานจากเวทีศิลปกรรม ปตท.ส่วนกลางจำนวน 20 ชิ้น รวมจำนวน ผลงานจัดแสดงทั้งสิ้น 272 ชิ้น ที่ หอศิลป์คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 2-31 ตุลาคมนี้
วัตถุประสงค์ของโครงการฯเพื่อวางรากฐานในการพัฒนาจิตใจของเยาวชนให้รักธรรมชาติ การเปิดเวทีแห่งการเรียนรู้ศิลปะให้แก่เยาวชน จนเกิดการถ่ายทอดแนวคิดและจินตนาการ สร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะได้อย่างงดงาม นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ประการหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อก้าวไปเป็นหลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ นายสรัญ รังคสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเวลาอีก 2 ปี นับจากนี้บริษัท ปตท.จะเดินหน้าขยายจุดให้บริการเอ็นจีวี Natural gas vehicle) ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติแบบบีบอัด (compressed natural gas - CNG) สำหรับใช้เป็นพลังงานสะอาดทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติใช้กับพาหนะได้ เช่น รถยนต์ รถบรรทุก รถตู้ รถประจำทาง
โดยก๊าชเอ็นจีวี มีราคาขายที่ถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และช่วงที่น้ำมันปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องน้น มีผู้ใช้รถยนต์หันนิยมใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นสูงมาก จนไม่เพียงพอต่อความต้องการประชาชน
สำหรับช่องทางขยายจุดบริการนั้น บริษัท ปตท.จะวางท่อก๊าซเอ็นจีวีไปยังสถานีบริการแม่แต่ละพื้นที่ก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปยังปั๊มเล็กๆ ต่อไป โดยคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มดำเนินการได้ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตในการก่อสร้างวางแนวท่อก๊าซ ทั้งนี้ สถานบริการของก๊าซเอ็นจีวีของปั๊ม ปตท.ในปัจจุบันมีเพียง 700 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งจากแผนงานดังกล่าว ถ้าหากขยายได้ตามเป้า บริษัท ปตท.เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มรายได้จากพลังงานทดแทนเป็น 15-20 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม นอกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะสามารถลดปริมาณการรอคิวการเติมก๊าซของลูกค้าลงกว่าครึ่ง จากปัจจุบันเวลาการรอต่อคันต่อคิวของลูกค้ามีประมาณ 10 นาที
นอกจากแผนขยายสถานบริการเอ็นจีวี บริษัท ปตท.ยังมีกิจกรรมเพื่อพัฒนาด้านสังคม โดยล่าสุดได้ร่วมกับ หอศิลปวัฒนธรรม และศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีมอบรางวัลการประกวดศิลปกรรม ปตท.เยาวชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 3 ขึ้น ภายหลังจากมีการเปิดให้นักเรียนได้มีการประกวดภาพวาดตามจินตนาการ
โดยในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 700 คน รวมผลงาน 197 ชิ้นจะถูกนำมาแสดงนิทรรศการ “หยุด...โลกร้อน เพื่ออนาคต” ร่วมกับผลงานจากเวทีศิลปกรรม ปตท.ส่วนกลางจำนวน 20 ชิ้น รวมจำนวน ผลงานจัดแสดงทั้งสิ้น 272 ชิ้น ที่ หอศิลป์คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 2-31 ตุลาคมนี้
วัตถุประสงค์ของโครงการฯเพื่อวางรากฐานในการพัฒนาจิตใจของเยาวชนให้รักธรรมชาติ การเปิดเวทีแห่งการเรียนรู้ศิลปะให้แก่เยาวชน จนเกิดการถ่ายทอดแนวคิดและจินตนาการ สร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะได้อย่างงดงาม นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ประการหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อก้าวไปเป็นหลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป