“สุขุมพันธุ์” ชูนโยบายรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานสะอาด ตั้งเป้าให้รถยนต์ของกทม.เปลี่ยนใช้แก๊สโซฮอล์-ไบโอดีเซล ทั้งหมดในปี 2552 พร้อมให้สวนสาธารณะ กทม.เป็นแหล่งพลังงานทางเลือก ด้าน “เอธัส” นำขบวนคาราวานมอเตอร์ไซค์ลงพื้นที่หาเสียงโค้งสุดท้าย เอาใจเด็กแว้นชูจัดสนามแข่งรถ เปิดเคเบิล กทม.ถ่ายทอดสด
วันนี้ (29 ธ.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่ โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์ สังกัด กทม. เขตจตุจักร พร้อมชูนโยบายรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยพลังงานสะอาดตามนโยบายหลัก 3 ประการ คือ 1.ให้ กทม.เป็นหน่วยงานตัวอย่างที่ใช้แก๊สโซฮอล์ หรือไบโอดีเซล โดยให้รถในหน่วยงาน กทม. ที่มีทั้งหมด 10,643 คัน เปลี่ยนมาใช้แก๊สโซฮอล์ หรือไบโอดีเซลให้ได้ภายในปี 2552 เพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 5 พันกว่าตันต่อปี และประหยัดงบประมาณได้ 52.89 ล้านบาทต่อปี 2.ร่วมกับภาคเอกชนและโรงเรียนในเป็นจุดรับแลกซื้อเพื่อให้ประชาชนสามารถนำน้ำมันพืชที่ใช้แล้วไปจำหน่ายที่จุดรับซื้อซึ่งปัจจุบันทำอยู่แล้ว กับห้างสรรพสินค้า และตลาดสดบางแห่ง ในอนาคตจะต้องขยายจุดให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนทั้งในและนอกสังกัด กทม. เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กมีส่วนร่วมในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม และ 3. ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานไฟฟ้าจากกังหันลม และพลังงานไฟฟ้าจากแผงรับแสงอาทิตย์ ด้วยการสร้างตัวอย่างในสวนสาธารณะของ กทม.ซึ่ง ปัจจุบันมีการทดลองทำใน สวนตัวอย่างที่ใกล้สมบูรณ์แล้ว คือ ที่สวนลุมพินี ซึ่งพลังงานบางส่วนจะมาจากการใช้กังหันลมผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
ขณะที่ นายเอธัส มนต์เสรีนุสรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 14 นำทีมหาเสียงขี่จักรยานยนต์ฮาร์เลย์พาขบวนคาราวานจักรยานยนต์ 75 คัน ลงพื้นที่หาเสียงที่บริเวณแยกเหม่งจ๋าย เขตห้วยขวาง พร้อมกล่าวถึงการแก้ปัญหาเด็กวัยรุ่นที่อาศัยถนนสาธารณะแข่งรถซิ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยมีแนวคิดจะจัดสถานที่แข่งรถให้จัดทำช่องเคเบิลทีวี กทม.เพื่อถ่ายทอดสดการแข่งขันรถของวัยรุ่น เพื่อหวังให้เป็นการแสดงออกที่ถูกต้องโดยไม่เป็นการรบกวนผู้ใด รวมทั้งจะให้ช่องเคเบิลทีวีนำเสนอความเคลื่อนไหวข้อมูลงานด้านต่างๆ ของ กทม.ด้วย
นอกจากนี้จะปรับปรุงการทำงานของข้าราชการ กทม.ทุกหน่วยงานให้มีศักยภาพด้านการบริการให้ดีขึ้น (เซอร์วิสมายด์) โดยจะเปิดหลักสูตรอบรมให้แก่ข้าราชการทุกระดับเพื่อให้ประชาชนที่มารับบริการมีรอยยิ้มกลับไป สำหรับคาราวานรถจักยานยนต์ในวันนี้จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของตนในการแนะนำตัว แจกใบปลิวให้แก่ประชาชนตามชุมชนต่างๆ เนื่องจากเวลาที่เหลือก่อนวันเลือกตั้ง ตนอาจจะเข้าไปพบประชาชนได้ไม่ครบทั้ง 50 เขต