พิจิตร – ชาวนาพิจิตรน้ำตาตก ถูกเมียกำนันตัวแสบหลอกตุ๋นทั้งตำบล 20 ล้าน อ้างปล่อยกู้ต่อได้ดอกร้อยละ 60 ต่อปี แล้วเชิดหนีแม้แต่นายก อบต.ก็โดนต้มด้วย 2 ล้าน
นางนับภา ศรีไพรสน อายุ 40 ปี ชาวนาตำบลหนองโสน ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลหนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร หลายสิบรายเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เจริญ อนุเคราะห์ สว. สภ.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ว่า ถูกนางอนงค์ สิงหาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/8 หมู่ 2 ต.หนองโสน มีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ต.หนองโสน และเป็นเมียกำนันในตำบลหนองโสน หลอกลวงฉ้อโกงเงินจากชาวนาที่เป็นลูกบ้านที่ขายข้าวได้ ไปรายละ 50,000-200,000 บาท รวมนายก อบต.ก็ถูกโกงไปด้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 6 ล้านบาทไป
นางอนงค์ ใช้วิธีกู้เงินแล้วเขียนเช็คค้ำประกันเงินกู้และให้สามีที่เป็น “กำนัน” ลงชื่อค้ำประกัน รวมถึงใช้ความมีหน้ามีตาของตัวเอง ที่เป็นเมียกำนันมาระดมเงินทุนจากลูกบ้านที่เป็นชาวนา ซึ่งขายข้าวเปลือกได้เป็นกอบเป็นกำ อ้างว่าเพื่อไปปล่อยเงินกู้รายวัน ซึ่งผู้ที่ร่วมทุนด้วยจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 60 ต่อปี แต่เมื่อเอาเงินไปแล้วดอกเบี้ยก็ไม่ได้ตามที่ตกลงเอาไว้แถมขอต้นคืนก็หลบลี้หนีหน้า ชาวบ้านจึงรู้ว่าถูกโกง
หลังจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวพร้อมด้วย นายมานพ พุกกลิ่น นายก อบต.หนองโสน ที่ถูกตุ๋นไป 2 ล้านบาท ได้เข้าแจ้งความเอาผิดนางอนงค์ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่ง พ.ต.ต.เจริญ ได้รับแจ้ง และจะขออำนาจศาลออกหมายจับเพื่อนำมาดำเนินคดีนั้น ปรากฏว่า นางอนงค์ กลับไม่สะทกสะท้านยังคงอยู่บ้านตามปกติและท้าให้ชาวบ้านไปแจ้งความหรือฟ้องร้องเอา เพราะรู้ว่าเป็นคดีแพ่งตำรวจทำอะไรในคดีอาญาไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาที่ถูกฉ้อโกงส่วนใหญ่ได้เงินจากการทำนาขายข้าวเปลือก และเห็นดอกเบี้ยธนาคารถูก และเมียกำนันมาเสนอผลประโยชน์ที่สูงกว่าจึงเลือกเอาเงินให้เมียกำนันกู้เพื่อไปปล่อยเงินกู้รายวันกินดอก
ชาวนาที่ถูกหลอกกู้เงินครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะ อ.สามง่าม เท่านั้น แต่พบว่าที่ สภ.เมืองพิจิตร ก็ยังมีผู้เข้าแจ้งความแล้วกว่า 30 รายกับผู้ต้องหารายเดียวกันกันนี้ ซึ่งโดยสรุปมีวงเงินของชาวบ้านที่ถูกฉ้อโกงใน อ.เมืองรวมถึง 10 ล้านบาท และถ้ารวมอำเภอสามง่ามด้วย ก็จะมีชาวนาตกเป็นเหยื่อไม่น้อยกว่า 100 รายคิดเป็นเงินเกือบ 20 ล้านบาท และมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่ายังมีชาวบ้านในอีกหลายอำเภอที่ตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีกด้วยเช่นกัน
นางนับภา ศรีไพรสน อายุ 40 ปี ชาวนาตำบลหนองโสน ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลหนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร หลายสิบรายเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เจริญ อนุเคราะห์ สว. สภ.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ว่า ถูกนางอนงค์ สิงหาร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/8 หมู่ 2 ต.หนองโสน มีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ต.หนองโสน และเป็นเมียกำนันในตำบลหนองโสน หลอกลวงฉ้อโกงเงินจากชาวนาที่เป็นลูกบ้านที่ขายข้าวได้ ไปรายละ 50,000-200,000 บาท รวมนายก อบต.ก็ถูกโกงไปด้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 6 ล้านบาทไป
นางอนงค์ ใช้วิธีกู้เงินแล้วเขียนเช็คค้ำประกันเงินกู้และให้สามีที่เป็น “กำนัน” ลงชื่อค้ำประกัน รวมถึงใช้ความมีหน้ามีตาของตัวเอง ที่เป็นเมียกำนันมาระดมเงินทุนจากลูกบ้านที่เป็นชาวนา ซึ่งขายข้าวเปลือกได้เป็นกอบเป็นกำ อ้างว่าเพื่อไปปล่อยเงินกู้รายวัน ซึ่งผู้ที่ร่วมทุนด้วยจะได้ผลตอบแทนร้อยละ 60 ต่อปี แต่เมื่อเอาเงินไปแล้วดอกเบี้ยก็ไม่ได้ตามที่ตกลงเอาไว้แถมขอต้นคืนก็หลบลี้หนีหน้า ชาวบ้านจึงรู้ว่าถูกโกง
หลังจากชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวพร้อมด้วย นายมานพ พุกกลิ่น นายก อบต.หนองโสน ที่ถูกตุ๋นไป 2 ล้านบาท ได้เข้าแจ้งความเอาผิดนางอนงค์ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่ง พ.ต.ต.เจริญ ได้รับแจ้ง และจะขออำนาจศาลออกหมายจับเพื่อนำมาดำเนินคดีนั้น ปรากฏว่า นางอนงค์ กลับไม่สะทกสะท้านยังคงอยู่บ้านตามปกติและท้าให้ชาวบ้านไปแจ้งความหรือฟ้องร้องเอา เพราะรู้ว่าเป็นคดีแพ่งตำรวจทำอะไรในคดีอาญาไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาที่ถูกฉ้อโกงส่วนใหญ่ได้เงินจากการทำนาขายข้าวเปลือก และเห็นดอกเบี้ยธนาคารถูก และเมียกำนันมาเสนอผลประโยชน์ที่สูงกว่าจึงเลือกเอาเงินให้เมียกำนันกู้เพื่อไปปล่อยเงินกู้รายวันกินดอก
ชาวนาที่ถูกหลอกกู้เงินครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะ อ.สามง่าม เท่านั้น แต่พบว่าที่ สภ.เมืองพิจิตร ก็ยังมีผู้เข้าแจ้งความแล้วกว่า 30 รายกับผู้ต้องหารายเดียวกันกันนี้ ซึ่งโดยสรุปมีวงเงินของชาวบ้านที่ถูกฉ้อโกงใน อ.เมืองรวมถึง 10 ล้านบาท และถ้ารวมอำเภอสามง่ามด้วย ก็จะมีชาวนาตกเป็นเหยื่อไม่น้อยกว่า 100 รายคิดเป็นเงินเกือบ 20 ล้านบาท และมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่ายังมีชาวบ้านในอีกหลายอำเภอที่ตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีกด้วยเช่นกัน