เลย- หน่วยงานรัฐกระทรวงยุติธรรม จ.เลย จัดเวิร์กชอป วิพากษ์แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี เปิดโอกาสประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมวิพากษ์แผน ห่วงคดียาเสพติดปัจจุบันเริ่มสูงขึ้น เฉลี่ยมีนักโทษเข้าเรือนจำ 25-30 คน/เดือน จี้ทุกฝ่ายหาทางลดสถิติคดียาเสพติด วางรูปแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง จัดฝึกจิตภาวนา ฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขัง เป็นคนดีคืนสู่สังคม
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.นายอนุพงษ์ โพร้งประภา ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดเลย เป็นประธานประชุมวิพากษ์แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย พ.ศ. 2552-2555 ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบไปด้วย คณะทำงานยกร่างแผนฯ คณะทำงานประสานงานกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัด เครือข่ายยุติธรรมชุมชน หัวหน้าส่วนราชการในกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเลย ร่วมวิพากษ์แผนฯกว่า 50 คน ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์โรงแรมเลยพาเลซ อ.เมือง จ.เลย
วัตถุประสงค์การจัดประชุมเพื่อวิพากษ์แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย พ.ศ.2552-2555 หลังสิ้นสุดแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย พ.ศ. 2548-2551 นับเป็นการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบการบริหาร และบริการงานยุติธรรมในมิติเชิงพื้นที่ พร้อมกับมุ่งเน้นการทำงานเชิงบูรณาการระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและภาคประชาชน ทั้งในด้านนโยบายและแผนปฏิบัติราชการ โดยเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมจากประชาชนและการให้บริการที่ยึดประชาชนและชุมชนเป็นศูนย์กลางตามหลักการ ยุติธรรมถ้วนหน้าประชามีส่วนร่วม
นายสุภาพงษ์ อินทรวัชระ หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เรือนจำจังหวัดเลยตั้งแต่ปี 2540-2550 นั้น อัตราส่วนการลดลงของผู้ต้องหาคดียาเสพติด ลดลงจากทั้งหมด 1,700 คน ปัจจุบันเหลือเพียง 570 คน ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่จะถูกดำเนินคดียาเสพติด ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปี 2551 กลับมีนักโทษคดียาเสพติดเริ่มมากขึ้น ตามลำดับ เฉลี่ย 25-30 คน/เดือน คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมดในเรือนจำจังหวัดเลย ทุกฝ่ายจะต้องเร่งหาวิธีทำให้สถิติลดลง
บทบาทของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเลย ในการลดผู้ต้องขังคดียาเสพติด ได้เน้นรูปแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง จัดโครงการค่ายฝึกจิตภาวนา การให้ความรู้ด้านวิชาชีพ และความรู้ด้านสามัญ แก่ผู้ต้องขัง เมื่อผู้ต้องขังต้องโทษจนออกจากเรือนจำไปแล้วนั้น บุคลเหล่านี้สามารถไปประกอบอาชีพ และเป็นคนดีของสังคมได้ในอนาคต
ส่วนสถานการณ์วัยรุ่นปัจจุบันนี้ วัยรุ่นมีค่านิยมที่ผิด หลงไหลกับอบายมุข หลงวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ไร้ศีลธรรมอันดี กระทำผิดซ้ำซาก เริ่มจากการกระทำผิดศีล 5 ข้อ ดื่มสุรา และนำไปสู่การ ขาดสติและคิดนอกกรอบ ไปลักขโมย และก่อเกิดปัญหาอาชญากรรม