แผลเป็นอาจส่งเสริมแรงดึงดูดทางเพศของชายหนุ่มก็จริง แต่นักวิจัยเตือนว่าเสน่ห์ดังกล่าวจะเข้าตาสาวที่ต้องการเพียงความสัมพันธ์ระยะสั้นเท่านั้น เพราะในมุมมองของผู้หญิงเหล่านั้น รอยแผลเป็นบ่งบอกถึงนิสัยรักการผจญภัย ความเป็นลูกผู้ชาย และกล้าหาญ
แต่เมื่อใดก็ตามที่คิดอยากเป็นแม่ ผู้หญิงมีแนวโน้มจะทิ้ง ‘แบ๊ดบอย’ ไปหาชายหนุ่มที่ดูใส่ใจตัวเองมากกว่า
การค้นพบของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลชิ้นนี้อาจช่วยอธิบายถึงเสน่ห์ของแฮร์ริสัน ฟอร์ด นักแสดงหนุ่มใหญ่ที่ได้แผลเป็นที่คางจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆ
จุดเริ่มต้นของการศึกษานี้คือ นักวิจัยต้องการรู้ว่าแผลเป็นมีอิทธิพลต่อการเลือกคู่ทั้งระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่และอย่างไร
นักวิจัยพบว่า ไม่ว่าจะมีแผลเป็นหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้ชายมองว่าผู้หญิงมีเสน่ห์ดึงดูดเสมอ ซึ่งอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด
ดร.ร็อบ เบอร์ริสส์ จากคณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล เผยว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงจะได้ดูภาพใบหน้าที่มีแผลเป็นจากการบาดเจ็บหรือไม่สบาย และต้องให้คะแนนความมีเสน่ห์ของบุคคลในแต่ละภาพสำหรับความสัมพันธ์ระยะสั้นและระยะยาว
“ผู้หญิงอาจมองว่าหนุ่มที่มีแผลเป็นมีเสน่ห์บาดใจสำหรับความสัมพันธ์ระยะสั้น เพราะรู้สึกว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชายชาตรี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เชื่อมโยงกับระดับเทสโทสเตอโรน และเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพพันธุกรรมที่ดีที่สามารถถ่ายทอดไปให้ลูก
“อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มที่ไม่มีแผลเป็นบนใบหน้าอาจดูเป็นคนใส่ใจมากกว่า จึงเหมาะสมสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว
“ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เรามีสิ่งที่คล้ายกับวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัฒนธรรมตะวันตกมากกว่าที่คิดกันไว้
“ตัวอย่างเช่น เผ่ายาโนมาโมในเวเนซุเอลาก็มีความคิดว่ารอยแผลเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งเหมือนกัน เลยใช้สีเน้นแผลเป็นที่เกิดจากการต่อสู้ซึ่งเป็นประเพณีของเผ่าเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งอดทนจากการถูกตีหัวซ้ำๆ
“สมมติฐานที่ว่ารอยแผลเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญยังสอดคล้องกับประเพณีโบราณของวัฒนธรรมการฟันดาบของตะวันตก ที่แผลเป็นของผู้ชายมักเป็นประจักษ์พยานความกล้าและความสามารถในการต้านทานการฟาดฟันจากคู่ต่อสู้”
อนึ่ง ผลวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสารเพอร์ซันนาลิตี้ แอนด์ อินดิวิดวล ดิฟเฟอเรนซ์
แต่เมื่อใดก็ตามที่คิดอยากเป็นแม่ ผู้หญิงมีแนวโน้มจะทิ้ง ‘แบ๊ดบอย’ ไปหาชายหนุ่มที่ดูใส่ใจตัวเองมากกว่า
การค้นพบของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลชิ้นนี้อาจช่วยอธิบายถึงเสน่ห์ของแฮร์ริสัน ฟอร์ด นักแสดงหนุ่มใหญ่ที่ได้แผลเป็นที่คางจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงอายุยี่สิบกว่าๆ
จุดเริ่มต้นของการศึกษานี้คือ นักวิจัยต้องการรู้ว่าแผลเป็นมีอิทธิพลต่อการเลือกคู่ทั้งระยะสั้นและระยะยาวหรือไม่และอย่างไร
นักวิจัยพบว่า ไม่ว่าจะมีแผลเป็นหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้ชายมองว่าผู้หญิงมีเสน่ห์ดึงดูดเสมอ ซึ่งอาจไม่ใช่ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด
ดร.ร็อบ เบอร์ริสส์ จากคณะวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล เผยว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงจะได้ดูภาพใบหน้าที่มีแผลเป็นจากการบาดเจ็บหรือไม่สบาย และต้องให้คะแนนความมีเสน่ห์ของบุคคลในแต่ละภาพสำหรับความสัมพันธ์ระยะสั้นและระยะยาว
“ผู้หญิงอาจมองว่าหนุ่มที่มีแผลเป็นมีเสน่ห์บาดใจสำหรับความสัมพันธ์ระยะสั้น เพราะรู้สึกว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นชายชาตรี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เชื่อมโยงกับระดับเทสโทสเตอโรน และเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพพันธุกรรมที่ดีที่สามารถถ่ายทอดไปให้ลูก
“อย่างไรก็ตาม ชายหนุ่มที่ไม่มีแผลเป็นบนใบหน้าอาจดูเป็นคนใส่ใจมากกว่า จึงเหมาะสมสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาว
“ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เรามีสิ่งที่คล้ายกับวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัฒนธรรมตะวันตกมากกว่าที่คิดกันไว้
“ตัวอย่างเช่น เผ่ายาโนมาโมในเวเนซุเอลาก็มีความคิดว่ารอยแผลเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความเข้มแข็งเหมือนกัน เลยใช้สีเน้นแผลเป็นที่เกิดจากการต่อสู้ซึ่งเป็นประเพณีของเผ่าเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งอดทนจากการถูกตีหัวซ้ำๆ
“สมมติฐานที่ว่ารอยแผลเป็นเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญยังสอดคล้องกับประเพณีโบราณของวัฒนธรรมการฟันดาบของตะวันตก ที่แผลเป็นของผู้ชายมักเป็นประจักษ์พยานความกล้าและความสามารถในการต้านทานการฟาดฟันจากคู่ต่อสู้”
อนึ่ง ผลวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสารเพอร์ซันนาลิตี้ แอนด์ อินดิวิดวล ดิฟเฟอเรนซ์
