เชียงราย - ป่าไม้เชียงราย ลุยจับแก๊งโค่นป่า พบป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่กกฝั่งขวา ถูกทำลาย 2 จุด กินเนื้อที่กว้าง ตรวจยึดของกลางเพียบ จับสมุนแก๊งรุกป่าได้ 3 คน ให้การซัดทอดผู้ใหญ่บ้าน ตัวการจ้างวาน ด้านชุดจับกุม เตรียมขยายผลปราบอิทธิพล ล่านายทุนใหญ่เข้าคุก
นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จ.เชียงราย นำกำลังร่วมกับนายโกศล พิมพ์สาร หัวหน้าสายตรวจปราบปรามสายที่ 2 และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.24 (ป่าซาง) โดยมีกำลังสายตรวจสายตรวจปราบปราม สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 สนธิกำลังเข้าร่วมกว่า 30 นาย อาวุธครบมือ กระจายกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมขบวนการโค่นป่า บ่ายวันที่ 3 ส.ค.51 หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มนายทุน เข้ามาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยสัก-ป่าแม่กกฝั่งขวา เสียหายจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ เป้าหมาย 2 จุด จุดแรกพบว่าป่าสงวนแห่งชาติ ถูกโค่นทำลายเสียหายเป็นเนื้อที่กว้างถึง 3 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา ส่วนจุดที่ 2 ถูกบุกรุกโค่นป่าเสียหาย 7 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา นอกจากนี้นยังมีการโค่นต้นไม้ใหญ่ เป็นไม้กระยาเลยท่อน จำนวนกว่า 45 ท่อน โดยชักลากลงมาได้เบื้องต้นเพียง 25 ท่อน ปริมาตร 107 ลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทำลายป่า ได้ 3 คน คือ 1.นายวิชาญ อักษรแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/1 ม.2 ต.ไทรคลึง อ.พระแสง จ.สุราษฎรธานี 2.นายสุข ตาคำนิล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/13 ม.13 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย 3.นายสมบูรณ์ กำแพงคำ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/13 ม.13 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า ได้รับว่าจ้างจากผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ว่าให้เข้ามาบุกรุกทำลายป่า ส่วนตัวการนายทุนใหญ่ไม่ทราบว่าเป็นใคร มีหน้าที่เพียงโค่นต้นไม้และปรับสภาพที่ป่าเท่านั้น
นายทนงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าสงวนทั้ง 2 จุด เป็นลักษณะการล้มป่าใหม่ มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติเสียหายไปมาก ซึ่งจะได้ประสานทางฝ่ายปกครองเข้าร่วมสืบสวนทางลับว่า ผู้ใหญ่บ้านตัวการที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดนั้นคือใคร มีพฤติกรรมอิทธิพลมากน้อยขนาดไหน เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างหนัก รวมทั้งขยายผลไปจับกุมตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายทุนทางภาคใต้ที่ต้องการเข้ามาสร้างแปลงเกษตรและปลูกสร้างที่พักหรูส่วนตัวในนั้น
นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จ.เชียงราย นำกำลังร่วมกับนายโกศล พิมพ์สาร หัวหน้าสายตรวจปราบปรามสายที่ 2 และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.24 (ป่าซาง) โดยมีกำลังสายตรวจสายตรวจปราบปราม สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 สนธิกำลังเข้าร่วมกว่า 30 นาย อาวุธครบมือ กระจายกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมขบวนการโค่นป่า บ่ายวันที่ 3 ส.ค.51 หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มนายทุน เข้ามาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าห้วยสัก-ป่าแม่กกฝั่งขวา เสียหายจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ เป้าหมาย 2 จุด จุดแรกพบว่าป่าสงวนแห่งชาติ ถูกโค่นทำลายเสียหายเป็นเนื้อที่กว้างถึง 3 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา ส่วนจุดที่ 2 ถูกบุกรุกโค่นป่าเสียหาย 7 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา นอกจากนี้นยังมีการโค่นต้นไม้ใหญ่ เป็นไม้กระยาเลยท่อน จำนวนกว่า 45 ท่อน โดยชักลากลงมาได้เบื้องต้นเพียง 25 ท่อน ปริมาตร 107 ลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ ยังจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทำลายป่า ได้ 3 คน คือ 1.นายวิชาญ อักษรแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/1 ม.2 ต.ไทรคลึง อ.พระแสง จ.สุราษฎรธานี 2.นายสุข ตาคำนิล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/13 ม.13 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย 3.นายสมบูรณ์ กำแพงคำ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/13 ม.13 ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ให้การว่า ได้รับว่าจ้างจากผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงราย แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ว่าให้เข้ามาบุกรุกทำลายป่า ส่วนตัวการนายทุนใหญ่ไม่ทราบว่าเป็นใคร มีหน้าที่เพียงโค่นต้นไม้และปรับสภาพที่ป่าเท่านั้น
นายทนงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ป่าสงวนทั้ง 2 จุด เป็นลักษณะการล้มป่าใหม่ มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติเสียหายไปมาก ซึ่งจะได้ประสานทางฝ่ายปกครองเข้าร่วมสืบสวนทางลับว่า ผู้ใหญ่บ้านตัวการที่ผู้ต้องหาให้การซัดทอดนั้นคือใคร มีพฤติกรรมอิทธิพลมากน้อยขนาดไหน เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างหนัก รวมทั้งขยายผลไปจับกุมตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นนายทุนทางภาคใต้ที่ต้องการเข้ามาสร้างแปลงเกษตรและปลูกสร้างที่พักหรูส่วนตัวในนั้น
