ระยอง - คณะทนายความจังหวัดระยอง ออกหนังสือแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ.ระยอง สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร อย่างใกล้ชิด กวดขันความปลอดภัยสถานที่ราชการและจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เช่น นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
ด้าน นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้กวดขันบุคคลที่จะเข้าไปในโรงงาน การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อย่างละเอียด หากผิดสังเกตให้รีบแจ้ง สำนักงานอุตสาหกรรมมาบตาพุดทันที ล่าสุดนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ด้าน คณะสภาทนายความจังหวัดระยอง ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ฉบับที่ 1 กรณีเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย คณะทนายความ จังหวัดระยอง ขอประณามและขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชน โดยอ้างว่าทำตามคำสั่งศาลที่ให้รื้อถอน ศาลมิได้มีคำสั่งให้ตำรวจสามารถทำร้ายประชาชนได้
การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่เกินคำสั่งของศาลและผิดกฎหมาย โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารประเทศโดยการลาออก และหากมีการใช้ความรุนแรงในการจัดการกับกลุ่มประชาชนผู้ชุมนุม เรียกร้องให้ประชาชนใช้อารยะขัดขืนจนกว่านายกรัฐมนตรีลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ โดยการพิจารณาถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมทั้งให้ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั่วประเทศแสดงจุดยืน ที่ชัดเจนในการรับใช้ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีแถลงการณ์คณะทนายความ จังหวัดระยองฉบับที่ 2 ตามที่รัฐบาล และ นปก. ใช้กำลังทำร้ายทุบตีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ขอประณามการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ยอมป้องกันมิให้กลุ่ม นปก. เข้ามาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ทั้งนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบในฐานะ ผู้บริหารประเทศ โดยการลาออกทันที เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที และให้ผู้มีอำนาจในกระบวนการยุติธรรมดำเนินคดีนายกรัฐมนตรี โดยเฉียบขาดและทันที
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผวจ.ระยอง สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาล ที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร อย่างใกล้ชิด กวดขันความปลอดภัยสถานที่ราชการและจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เช่น นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
ด้าน นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมมาบตาพุด ให้กวดขันบุคคลที่จะเข้าไปในโรงงาน การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ อย่างละเอียด หากผิดสังเกตให้รีบแจ้ง สำนักงานอุตสาหกรรมมาบตาพุดทันที ล่าสุดนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ด้าน คณะสภาทนายความจังหวัดระยอง ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ฉบับที่ 1 กรณีเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย คณะทนายความ จังหวัดระยอง ขอประณามและขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชน โดยอ้างว่าทำตามคำสั่งศาลที่ให้รื้อถอน ศาลมิได้มีคำสั่งให้ตำรวจสามารถทำร้ายประชาชนได้
การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่เกินคำสั่งของศาลและผิดกฎหมาย โดยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บริหารประเทศโดยการลาออก และหากมีการใช้ความรุนแรงในการจัดการกับกลุ่มประชาชนผู้ชุมนุม เรียกร้องให้ประชาชนใช้อารยะขัดขืนจนกว่านายกรัฐมนตรีลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ โดยการพิจารณาถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมทั้งให้ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนทั่วประเทศแสดงจุดยืน ที่ชัดเจนในการรับใช้ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีแถลงการณ์คณะทนายความ จังหวัดระยองฉบับที่ 2 ตามที่รัฐบาล และ นปก. ใช้กำลังทำร้ายทุบตีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ขอประณามการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ยอมป้องกันมิให้กลุ่ม นปก. เข้ามาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นการกระทำที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ทั้งนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบในฐานะ ผู้บริหารประเทศ โดยการลาออกทันที เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยทันที และให้ผู้มีอำนาจในกระบวนการยุติธรรมดำเนินคดีนายกรัฐมนตรี โดยเฉียบขาดและทันที
