xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ-NGO จี้ “สมัคร” ลาออก-ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – กลุ่มนักวิชาการและองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง “สมัคร” สละเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ชี้ เป็นการเปิดช่องนำไปสู่การใช้ความรุนแรงกับประชาชน พร้อมปลุกพลังเงียบแสดงบทบาทเรียกร้องทุกฝ่าย ยุติการใช้ความรุนแรงด้วยการใช้สีดำเป็นสัญลักษณ์

วันนี้ (2 ก.ย.) ที่บ้านธารแก้ว มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือ ที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ องค์กรภาคประชาชนและศาสนา ได้ร่วมกันแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมือง หลังจากเกิดการปะทะกัน ระหว่างกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อคืนที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 1 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย

ตลอดจนการที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้หวั่นเกรงว่าอาจจะนำไปสู่การปราบล้อมประชาชน นำไปสู่ความรุนแรงและการรัฐประหารอีกครั้ง รวมทั้งทำให้สังคมไทยมีการแบ่งฝ่ายแยกขั้วอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ฉบับนี้ได้มีข้อเรียกร้อง ได้แก่

1.ขอให้แกนนำกลุ่มการเมืองทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายพันธมิตรฯ และ นปช.ยุติการสร้างเงื่อนไขสู่การใช้ความรุนแรง อันจะนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิตประชาชนหรือการรัฐประหาร

2.ขอให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออก เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศและยังประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ อันเป็นเครื่องมือให้กับนายกรัฐมนตรีในการใช้อำนาจกับประชาชน

3.ขอให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพราะการบังคับใช้ดังกล่าวจะเป็นการเปิดช่องให้นายกรัฐมนตรีในการใช้อำนาจรุนแรงกับประชาชน นอกจากนี้ยังมีบางมาตราของ พ.ร.ก.ที่จะควบคุมการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน ซึ่งในสถาการณ์เช่นนี้ประชาชนควรได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

4.ขอให้บุคคล กลุ่ม องค์กรภาคประชาสังคมร่วมแสดงออกในการเปลี่ยนผ่านการเมืองครั้งนี้ โดยร่วมกันยุติความรุนแรงและใช้วิถีทางสมานฉันท์ในการแก้ไขปัญหา ด้วยการสวมเสื้อสีดำ ติดริบบิ้นสีดำที่รถยนต์ แขวนป้ายผ้าที่บ้านหรือที่ทำงานเป็นสัญลักษณ์

และ 5.เห็นว่า วิกฤตครั้งนี้จะต้องแก้ไขด้วยการปฏิรูปการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ โดยประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องหาทางออกร่วมกัน

นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ วิทยาลัยการจัดการทางสังคม กล่าวว่า จากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาของทางพันธมิตรฯ พบว่า มีความพยายามในการใช้ความรุนแรงกับประชาชนมาโดยตลอด จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์การปะทะกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เห็นว่าเป็นการล้ำเส้น และรัฐบาลควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แล้ว โดยเฉพาะการขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่น่าจะทำให้กลับไปสู่กระบวนการพูดคุยกันอย่างสันติวิธีได้ พร้อมกันนี้อยากเรียกร้องให้กลุ่มพลังเงียบได้ออกมาแสดงบทบาทของกลุ่มพลังทางเลือกที่สาม เพื่อให้สังคมสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ขณะที่ พระมหาบุญช่วย สิรินธโร วัดสวนดอก เชียงใหม่ กล่าวว่า อยากขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน แล้วใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหาแทนที่จะใช้อารมณ์

เช่นเดียวกับ ศาสนาจารย์อรุณ ทองดอนเหมือน คริสตจักรที่ 1 เชียงใหม่ ที่ร้องขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สังคมไทยกลับคืนสู่ภาวะที่สงบสุขโดยเร็ว

รายงานข่าวแจ้งว่าในการแถลงการณ์ครั้งนี้ ทางเครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือ ได้ร่วมกันทำการจุดเทียนและยืนสงบนิ่ง เพื่อเรียกร้องให้มีการยุติการใช้ความรุนแรงและขอให้สังคมไทยกลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็วด้วย

ทั้งนี้ กิจกรรมต่อไปของทางเครือข่ายจะมีการจัดขบวนรถจักรยานสวมเสื้อสีดำขี่วนรอบคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อรณรงค์ให้มีการยุติการใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่ายใน 2-3 วันนี้

สำหรับเครือข่ายประชาสังคมเพื่อความสมานฉันท์ภาคเหนือ ประกอบด้วยองค์กรต่างๆ ได้แก่ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ 64 องค์กร เครือข่ายสื่อประชาชนภาคเหนือ นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น โครงการปฏิบัติการเพื่อการปฏิรูปที่ดิน คณะกรรมการองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ภาคเหนือ เครือข่ายสุขภาพและชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง และกลุ่มประชาธิปไตยหลากสีแอนตี้ความรุนแรง

กำลังโหลดความคิดเห็น