แพทย์ชนบทแถลงการณ์เลือกข้าง ชี้ การชุมนุมประท้วงอย่างสันติวิธีที่สนามหญ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ได้สร้างความเสียหาย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน รัฐบาลไม่มีสิทธิจับกุมแกนนำ และสลายการชุมนุม ลั่นหากมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นมา ชมรมฯขอเรียกร้องต่อสมาชิกแพทย์แสดงจุดยืนอารยะขัดขืนให้เป็นที่ประจักษ์ ด้วยการไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับรัฐบาลจนกว่ารัฐบาลมือเปื้อนเลือดจะลาออกไป
แถลงการณ์ชมรมแพทย์ชนบท ฉบับที่ 1
ต่อกรณีการเผชิญหน้าระหว่างรัฐบาล และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 28 สิงหาคม 2551
สืบเนื่องจากการลุกขึ้นเรียกร้องระบอบการเมืองที่เป็นธรรม และยุติการเมืองที่เป็นนอมินีของระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองเฉพาะกลุ่มที่เอื้อผลประโยชน์เฉพาะพวกพ้อง ทำให้ประเทศชาติเสียหาย นำผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำทางนโยบายมาเป็นรัฐมนตรีบริหารบ้านเมือง ส่งผลเสียหายต่อทิศทางการนำประเทศชาติ ไม่ได้มาเพื่อมุ่งแก้ปัญหามากมายของชาติบ้านเมือง แต่มุ่งวางฐานอำนาจ และปกป้องแก้ปัญหาคดีความของคนบางกลุ่ม ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนอารยะขัดขืนของภาคประชาสังคมอย่างกว้างขวางในทุกจังหวัดทั่วประเทศขณะนี้
และจากสถานการณ์บ้านเมืองที่มีแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงว่าจะมีการสลายฝูงชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการชุมชนบริเวณสนามหญ้าหน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ทางชมรมแพทย์ชนบทขอแสดงจุดยืนและความเห็นดังนี้
1.ขอให้รัฐบาลยุติความพยายามในการสลายการชุมนุมประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล ยุติการส่งสัญญาณใดๆ ที่สะท้อนถึงการจะสลายการชุมนุม ซึ่งจะเป็นการสร้างความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศการเผชิญหน้าระหว่างคนไทยด้วยกัน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ใดๆ มีแต่จะสร้างความสูญเสียเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกัน อันจะทำให้บาดแผลความขัดแย้งในสังคมร้าวลึกลงไปจนยากจะเยียวยาแก้ไข
2.ชมรมแพทย์ชนบท เห็นว่า การชุมนุมประท้วงอย่างสันติวิธีที่สนามหญ้าทำเนียบรัฐบาลโดยไม่ได้รุกล้ำเข้าไปในตัวอาคาร หรือสร้างความเสียหายใดๆ แก่เอกสาร และงานของราชการแต่อย่างใดนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน จึงไม่ใช่เหตุผลที่รัฐบาลที่มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนทุกคนจะไปจับกุมแกนนำ และสลายการชุมนุมภายใต้สถานการณ์ที่เปราะบางมากเช่นนี้ สถานการณ์อาจลุกลามบานปลายจนเป็นเหตุจลาจลอันควบคุมไม่ได้ จนอาจส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยมากมายจนไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ รัฐบาลจึงควรใช้หลักความสมดุลย์ระหว่างหลักรัฐศาสตร์และหลักนิติศาสตร์ มากกว่าการใช้หลักนิติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
3.ชมรมแพทย์ชนบท มีความเห็นว่า การจับแกนนำพันธมิตรฯและสลายการชุมนุมเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองโดยใช้ความได้เปรียบของอำนาจรัฐดังกล่าว ไม่มีวันที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ แต่กลับยิ่งจะเป็นการจุดเชื้อไฟให้ลุกลามใหญ่โต หากรัฐบาลต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ รัฐบาลต้องแสดงจุดยืนในการเคารพกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ให้ชัดเจน ด้วยการแสดงออกอย่างชัดเจนในมาตรฐานดุจเดียวกัน โดยการในการนำตัวอดีตผู้นำและครอบครัวกลับมารับผิดตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการจัดการกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงอย่างชัดแจ้งกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดมหาสารคาม หรือจังหวัดอุดรธานี เชื่อว่า กระแสความขัดแย้งของมวลชนก็จะลดกระแสลงไปได้เอง
4.เพื่อลดทอน บรรเทา การสูญเสียใดๆ ที่ไม่จำเป็น จึงขอเรียกร้องให้เพื่อนสมาชิกแพทย์ชนบทและเพื่อนสมาชิกวิชาชีพสุขภาพทั่วประเทศที่ไม่มีภารกิจการอยู่เวรยาม ได้แสดงจุดยืนด้านมนุษยธรรม โดยให้ความร่วมมือกับศูนย์นเรนทร หรือหน่วยแพทย์อาสาของเวทีพันธมิตรฯ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับเพื่อนพี่น้องชาวไทยต่อไป
5.อย่างไรก็ตาม หากมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นมา ทางชมรมแพทย์ชนบทขอเรียกร้องต่อสมาชิกแพทย์และวิชาชีพสุขภาพทั้งประเทศ ให้แสดงจุดยืนอารยะขัดขืนให้เป็นที่ประจักษ์ ด้วยการไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับรัฐบาลจนกว่ารัฐบาลมือเปื้อนเลือดจะลาออกไป
นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท