xs
xsm
sm
md
lg

NGO เหนือชี้ข้อหากบฏ 9 แกนนำแรงเกินเหตุ - ชี้ ปชช.ชุมนุมตามสิทธิ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงใหม่- กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือออกแถลงการณ์ เสนอแนวทางผ่าทางตันวิกฤตการเมือง ชี้ข้อหา “กบฏ” 9 แกนนำรุนแรงเกินเหตุ จวกรัฐใช้สื่อในมือบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีการเคลื่อนไหวตามสิทธิใน รธน.ของพันธมิตรฯ พร้อมตั้งเงื่อนไขกรณี พธม.บุกยึด NBT ต้องตรวจสอบอย่างโปร่งใสก่อนยัดข้อหา

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ), นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ, ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น, โครงการปฏิบัติการเพื่อการปฏิรูปที่ดิน, สถาบันการจัดการทางสังคมภาคเหนือ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีวิกฤตทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยมีเนื้อหาว่า

จากกรณีที่สถานการณ์ปัญหาทางการเมืองที่เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนกระทั่งมีการบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT และการบุกยึดสถานที่ราชการ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา นำไปสู่การดำเนินคดีผู้ต้องหาจำนวน 85 คนที่ไปบุกยึดสถานีโทรทัศน์ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้เสียทรัพย์ รวมทั้งแจ้งข้อหากบฏต่อ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบกับท่าทีของรัฐบาลที่มีแนวโน้มว่าจะใช้ความรุนแรงเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม

โดยสถานการณ์ดังกล่าวนี้กำลังทำให้บ้านเมืองเดินทางมาสู่ความตึงเครียดทางการเมืองอีกครั้ง ไม่เป็นผลดีต่อประชาชน ทำให้อยู่บ้านเมืองอยู่ในภาวะชะงักงัน และเกิดความอึดอัดต่อทุกฝ่าย อีกทั้งยังมีแนวโน้มไปสู่ความรุนแรง เป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตย ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเสมอมา

กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนภาคเหนือ และนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ เห็นว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนชัดของความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างการเมืองในระบบรัฐสภาที่ผ่านระบบตัวแทน กับการเมืองภาคประชาชนนอกระบบรัฐสภา เพราะนับตั้งแต่ปี 2528 เป็นต้นมา สังคมไทยมีประสบการณ์ในกรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐมาตลอด

องค์กรภาคประชาสังคม ฯลฯ เห็นว่า รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นต้นมา จนถึงรัฐธรรมนูญ 2550 มีส่วนอย่างสำคัญในการพัฒนาพื้นที่การเมืองภาคประชาชน ระบุถึง สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชน และคงเป็นช่องทางเดียวที่มีอยู่ของประชาชนที่จะแสดงออกเมื่อเกิดความขัดแย้งกับรัฐปรากฏการณ์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือเป็นปรากฏการณ์ความขัดแย้งหนึ่งระหว่างการเมืองในระบบรัฐสภา กับการเมืองภาคประชาชน ที่ได้กลายเป็นการเผชิญหน้าสร้างความตึงเครียด ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ กลไกฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ของระบบรัฐสภา จึงไม่เพียงพอ ในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างประชาชน กับอำนาจรัฐที่มีกฎหมายในมือ

ในฐานะองค์กรประชาชนที่เฝ้ามองเหตุการณ์บ้านเมือง ต่างมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวอย่างยิ่ง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังผลักให้ประชาชนตกอยู่ในภาวะของความอึดอัด หวาดระแวงซึ่งกันและกัน นำไปสู่สถานการณ์การสู้รบอยู่ตลอดเวลา องค์กรเครือข่ายประชาชนภาคเหนือมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าวดังนี้

1.การผ่าทางตันวิกฤตขณะนี้ขอให้ประชาชน และประชาสังคม คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

2.การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มประชาชนกลุ่มต่างๆ ถือเป็นการชุมนุมสิทธิทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีพันธมิตรฯบุกยึด NBT เมื่อ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ต้องมีตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส

3.กรณีที่รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรง และใช้สื่อของรัฐ เพื่อป้ายสีบิดเบือนการใช้สิทธิในการชุมนุมแก่กลุ่มพันธมิตรฯ จนเกินจริง มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาผู้ชุมนุมจำนวน 85 คนและแกนนำทั้ง 9 คน ในข้อหา “กบฏ” นั้น ถือเป็นข้อหาที่แรงเกินไปสำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิ์ทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ

กำลังโหลดความคิดเห็น