xs
xsm
sm
md
lg

องค์กรนิรโทษสากลจี้“หมัก-คนสั่งสลายม็อบ”รับผิดชอบ/เตือนพรรคร่วมทบทวนตนเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – องค์การนิรโทษสากล ออกแถลงการณ์ต้านการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม จี้ “นายกฯ –คนสั่งสลายม็อบ” รับผิดชอบ เตือนพรรคร่วมทบทวนตัวเอง กังขาตำรวจอ้างคำสั่งศาลสร้างความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง พร้อมสอบบทบาทผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่แท้จริง ยันการชุมนุมเป็นสิทธิ์ของ ปชช. ชี้ NBT บิดเบือนจนถูกบุก

องค์การแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (องค์กรนิรโทษสากล) ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2551 ลงนามโดยนายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ ผู้อำนวยการ เรื่องความห่วงใยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง และการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยระบุว่า ได้ติดตามสถานการณ์ทางสังคมการเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง หลายเดือนที่ผ่านมา และรู้สึกห่วงใยต่อความขัดแย้ง ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มประชาชนในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนอาจนำมาสู่การสูญเสีย และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง ดังที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สังคมการเมืองไทยและประเทศอื่น ๆ

ท่าทีของรัฐบาล ที่ไม่ลดละในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ด้วยมาตรการต่าง ๆ ทั้งทางกฎหมาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนของรัฐ และด้วยกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่คุกคามข่มขู่ประชาชนที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐบาล และการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ภาพของความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 29 ส.ค.51 ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน เจ้าหน้าที่ตำรวจทุบที เหยียบย่ำ และทำร้ายร่างกายประชาชนไม่เว้นแม้แต่เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุที่มีเพียงสองมือเปล่า เป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างยิ่งต่อสายตาประชาคมโลก เป็นการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และละเมิดต่อพันธกรณีที่มีต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ที่รัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบันต่อเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2539

ดังนั้น เพื่อมิให้สถานการณ์ลุกลามขยายตัวไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ จึงขอแสดงจุดยืน ดังต่อไปนี้

1. ขอประณามความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะโดยทางวาจา หรือการกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นจากภาครัฐในการจัดการกับผู้ชุมนุมอย่างแข็งกร้าว ขอให้ยุติการใช้กำลังในการปราบปรามการชุมนุม สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมถือเป็นสิทธิมนุษยชนสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

2. ในขณะที่นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช ได้แถลงเมื่อ 28 ส.ค.51 ว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนิน สวนทางกับคำประกาศ ทำให้ไม่มีหลักประกันว่า จะไม่เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่อีก นายกรัฐมนตรี และผู้สั่งการจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้น

ประชาชนผู้เสียหายย่อมมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการฟ้องร้องเอาผิด และเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐ และผู้เกี่ยวข้อง ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเอง จะต้องสรุปทบทวนพฤติกรรมของตนว่ามีส่วนในการก่อปัญหาและทวีความรุนแรงของปัญหาอย่างไร

3. กระบวนการยุติธรรม เป็นที่กังขาว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง และให้มีการบังคับคดี ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทุบตีประชาชน โดยเฉพาะสตรีและผู้สูงอายุ มีการรื้อข้าวของ ยึดและทำลายทรัพย์สิน รวมถึงการเอาอาวุธปืนจ่อศีรษะประชาชนด้วยหรือไม่ หรือว่าเป็นการแอบอ้างคำสั่งศาลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตำรวจ

ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาก็ย่อมมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ได้รับการประกันตัว และปฏิบัติด้วยดีเฉกเช่นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาจนถึงที่สุดว่าได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา

4. บทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ถูกต้อง และเหมาะสม ควรจะเป็นอย่างไร บทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดี จะต้องยึดมั่นในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความเที่ยงธรรม และสุจริตธรรม ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สมกับการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่เข้าเกณฑ์มาตรฐานสากล มีความเป็นมืออาชีพ มิใช่เป็นเพียง “กลไก” หรือ “มือเท้า” ของรัฐในการเถลิงและจรรโลงอำนาจที่ไม่ชอบธรรม อันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียและตกต่ำของสถาบันตำรวจ

5.สื่อมวลชน จะต้องแสดงบทบาทที่เป็นกลางอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทันสถานการณ์ ในขณะที่ทุกฝ่ายต้องให้ความเคารพในสิทธิเสรีภาพในการเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนเช่น เอ็นบีที เครือข่ายวิทยุโทรทัศน์ ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ แต่การแสดงบทบาทที่มีลักษณะยั่วยุ ขาดความเป็นกลาง เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อ ขาดความเป็นมืออาชีพ

จนเป็นเหตุให้เกิดความไม่พอใจของกลุ่มประชาชน นำมาสู่กรณีการบุกรุกสถานีวิทยุโทรทัศน์นั้น ถือเป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญของทุกฝ่าย เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคมโดยรวม จึงขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาสสื่อมวลชนในการดำเนินการโดยอิสระ ปราศจากอคติ และยึดมั่นในจริยธรรมแห่งวิชาชีพโดยเคร่งครัด

6.บทบาทของกองทัพ สมควรที่จะอยู่ในที่ตั้งจนถึงที่สุด ไม่เข้าแทรกแซงทางการเมืองด้วยวิธีการใด ๆ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จนก่อวิกฤตอันส่งผลให้ประชาธิปไตยถดถอยดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอดีต

7. ปฏิบัติการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาจถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้และสร้างเสริมสมรรถนะ ด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของประชาชน หากยึดมั่นในหลักการสันติวิธีอย่างเคร่งครัด

8. ขอให้ทุกฝ่ายใช้สติในการดำเนินภารกิจของตน โดยยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี มีเหตุมีผล หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ หรือ โทษะ และโมหะจริต เคารพในศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ เพื่อให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคสมัยแห่งสังคมที่อภิวัฒน์ เป็นธรรม และการพัฒนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ขอย้ำว่า สิทธิเสรีภาพของประชาชนในการกำหนดเจตจำนงทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เป็นหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญ และหลักการแห่งสิทธิมนุษยชนสากล กระบวนการยุติธรรมจึงต้องเอื้อต่อการเข้าถึงสิทธิ ให้ความคุ้มครองสิทธิ และยืนยันสิทธิของประชาชน

รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องให้ความเคารพ และตอบสนองต่อการเข้าถึงสิทธิของประชาชน และรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น จากนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลเองยุติความรุนแรง ยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน ยุติการแทรกแซงและครอบงำสื่อมวลชน เพื่อสันติสุขแห่งสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น